CNA สิงคโปร์รายงานวันนี้ (ศุกร์ที่ 24 มค.) ว่านักข่าวของ CNA ได้ไปสัมภาษณ์และพูดคุยกับนักท่องเที่ยวจีนหลายคนที่เชียงใหม่ในประเด็นความปลอดภัยในประเทศไทย นางฉิน จือ วัย 64 ปี ชาวจีนจากเมืองซูโจวเล่าว่าเธอมาเที่ยวที่เชียงใหม่เป็นครั้้งที่ 7 แล้ว โดยส่วนตัวเธอรู้สึกปลอดภัย และเธอก็มีเพื่อนคนไทยที่รู้จักกันมานานนับสิบปีและสามารถไว้ใจได้
ขณะที่คนจีนคนอื่นๆที่พำนักอยู่ในไทยต่างก็พูดเหมือนกัน รวมทั้้งนางซู เว่ยหง วัย 57 ปีชาวเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ย้ายมาอยู่เชียงใหม่หลังเกษียณอายุ นางซูบอกว่าเพื่อนๆและญาติของเธอรู้สึกเป็นห่วงหลังมีข่าวเรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงชาวจีนไปเมียนมา เวลาไปไหนมาไหนจึงต้องคอยแจ้งครอบครัวให้รู้ว่าปลอดภัย แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยมาเมืองไทย มุมมองจึงไม่เหมือนเธอ
ยุนหลิน วัย 59 ปีซึ่งย้ายจากปักกิ่งมาอยู่เชียงใหม่นานกว่า 1 ปีแล้วหลังเกษียณบอกว่าความเป็นจริงไม่เหมือนกับสิ่งที่พูดกันในโลกโซเชียล และว่าเธอไม่เคยรู้สึกกลัวเลย คนไทยอบอุ่น เป็นมิตรและชอบช่วยเหลือ
กรณีที่หวาง ซิง นักแสดงชาวจีนที่ถูกสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้มาไทยและพาข้ามไปเมียนมาเมื่อวันที่ 4 มกราคมยังคงสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวจีนในประเทศจีน จนพากันยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทย ผู้บริหารไทยไลออนแอร์เผยว่าเที่ยวบินพิเศษจากจีนมาไทยถูกยกเลิกไปกว่า 40 เที่ยวบินในช่วงก่อนตรุษจีน ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวสำคัญของคนจีนและไทย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากจีนลดลงถึง 20% เนื่องจากชาวเน็ตจีนพากันโพสต์และแชร์ข้อความเตือนภัยทั้งในแพล็ตฟอร์มโตว่อินและเสี่ยวหงชู่ ว่าเมืองไทยอ้นตราย ให้ใช้ความระมัดระวังเวลามาเที่ยวไทย บางคนก็เตือนให้หยุดมาไทย, กัมพูชาและมาเลเซียไปเลย
นายชู ค่านค่าน หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าครูค่านค่าน ซึ่งเปิดบริษัทประชาสัมพันธ์และจัดงานอีเว้นต์ที่ปักกิ่งแต่ย้ายมาอยู่ที่ภูเก็ตพร้อมครอบครัวเกือบปีแล้วออกมาเรียกร้องให้คนจีนที่ทำงานและพำนักอยู่ที่้เมืองไทยออกมาช่วยกันชี้แจงข้อเท็จจริง นายชูได้ทำคลิปยาว 3 นาทีครึ่งมีเนื้อหาว่า “กลุ่มคนร้ายจีนจับตัวผู้บริสุทธ์ชาวจีนไปไว้ที่ศูนย์คอลเซ็นเตอร์ที่เมียนมา และศูนย์นั้นก็เป็นของคนจีน” โดยคลิปนี้กลายเป็นไวรัลและถูกแชร์ในวีแช็ทมากกว่า 3 พัน 700 ครั้ง
นายชูบอกด้วยว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกปวดใจ” และว่า “ถ้าพวกเราชอบความสงบและความปลอดภัยของเมืองไทย คิดว่าเมืองไทยเป็นบ้านหลังที่สองและรักเมืองไทยจริง ก็ขอให้ทุกคนออกมาช่วยกันพูด”
นายชูยังบอกกับนักข่าว CNA ว่าไม่ใช่แค่เมืองไทยเท่านั้นที่จะเสียภาพลักษณ์ แต่คนจีนเองก็จะถูกมองในด้านลบและถูกต่อต้านจากคนไทยเช่นกัน โดยเฉพาะชาวเน็ตจีนที่แห่โพสต์ข้อความจากมุมมองด้านเดียวและข้อความเท็จเรื่องความไม่ปลอดภัยจะทำให้คนอ่านพากันมองว่าชาวเน็ตจีนไร้เหตุผลและไม่เห็นคุณค่าของประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้คนจีนควรต้องหลีกเลี่ยงให้มาก