AP และรอยเตอร์สรายงานว่าทรัมป์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน เมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 25 มค.) ว่าเขาต้องการให้จอร์แดนและอิยิปต์รับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 ล้าน 5 แสนคน และว่าเขาได้ต่อสายคุยกับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดนในเรื่องนี้แล้ว และวันนี้ (อาทิตย์ที่ 26 มค.) ก็จะต่อสายคุยกับประธานาธิบดีอับเดล ฟาตาห์ เอล-ซิสซี ของอิยิปต์ เนื่องจากฉนวนกาซาขณะนี้กลายเป็นพื้นที่หลังสงคราม เหลือแต่ซากปรักหักพังและความเสียหาย เขาจึงหวังที่จะร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาหรับในการทำโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เพื่อรับชาวปาเลสไตน์เข้าไปตั้งถิ่นฐานเพื่อจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขเสียที ซึ่งอาจเป็นการอยู่แบบชั่วคราวหรือระยะยาว ขณะเดียวกันก็จะได้เคลียร์พื้นที่และความสะอาดกาซาให้กลับมาสะอาดจริงๆอีกครั้ง
ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์เคยเสนอแนวคิดเกี่ยวกับอนาคตของกาซา และหลังรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม ทรัมป์ก็ย้ำอีกว่ากาซาต้องมีการปรับเปลี่ยนผังเมืองใหม่ทั้งหมดที่แตกต่างไปจากเดิม และว่ากาซาตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก ทั้งติดทะเลและอากาศดี น่าจะสามารถสร้างอะไรที่สวยงามได้ ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูยังไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อคำพูดของทรัมป์
ระหว่างให้สัมภาษณ์ ทรัมป์ยังเผยด้วยว่าเขาได้ยกเลิกคำสั่งห้ามส่งระเบิดขนาดใหญ่น้ำหนัก 2 พันปอนด์หรือราว 900 กิโลกรัมให้กับอิสราเอลแล้ว โดยให้เหตุผลว่าอิสราเอลสั่งซื้อสหรัฐก็ต้องส่งให้ ทั้งนี้ไบเดนมีคำสั่งระงับการส่งระเบิดขนาดใหญ่ให้อิสราเอลเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วหลังอิสราเอลส่งทหารเข้ายึดเมืองราฟาห์ซึ่งมีประชากรอยู่กันหนาแน่น ซึ่งไบเดนกลัวว่าอิสราเอลจะใช้ระเบิดถล่มราฟาห์
การอนุมัติส่งระเบิด 900 กิโลกรัมให้อิสราเอลของทรัมป์มีขึ้นหลังอิสราเอลและฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและอยู่ระหว่างการแลกเปลี่ยนตัวประกันกัน ซึ่งอิสราเอลขู่ว่าหากฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมด อิสราเอลก็จะเปิดฉากโจมตีกาซาอีกครั้ง