“จุลพันธ์” แจงกฤษฏีกา ร่างกม.”เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” เป็นผลดีปท. เลี่ยงเขียนกาสิโน10 % ชี้ขึ้นกับสถานการณ์

"จุลพันธ์" แจงกฤษฏีกา ร่างกม."เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์" เป็นผลดีปท. เลี่ยงเขียนกาสิโน10 % ชี้ขึ้นกับสถานการณ์

Top news รายงาน วันที่ 27 ม.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าถึงการชี้แจงเรื่องร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ ที่มีการตั้งขึ้นมาได้เชิญกระทรวงการคลังเข้าไปมีส่วนร่วมในการประชุมทุกครั้ง โดยตนได้เข้าไปชี้แจงต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาฯครั้งหนึ่ง ซึ่งดีมาก เพราะได้รับข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะมิติของกฎหมาย และมีการสอบถามถึงแนวนโยบาย ตนในฐานะกำกับดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่แรกจึงชี้แจงในหลักคิดและแนวทางว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีส่วนประกอบของธุรกิจหลายๆ ประเภท บวกกับกาสิโน เพื่อสร้างเม็ดเงินลงทุนกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น รายจ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เกิดการจ้างงาน รวมถึงสามารถกำกับดูแลสิ่งที่เรียกว่าการพนันผิดกฎหมายที่อยู่ด้านนอกได้ด้วย ทั้งหมดคือสิ่งที่ตนได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ นอกจากนี้ ตนได้เสนอว่าขอให้มีตัวแทนของฝ่ายบริหารได้เข้าไปนั่งในคณะกรรมการกฤษฎีกาฯ โดยได้ส่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเข้าไป 2 คน ไปร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง คือ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ และนายฉัตริน จันทร์หอม เพราะเราต้องการให้หลักคิดและแนวคิดของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ยังคงอยู่

 

 

 

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า และได้บอกคณะกรรมการกฤษฎีกาฯว่า สิ่งที่สื่อและสังคมยังเข้าใจผิดไปมองเปรียบเทียบว่า เป็นสถานที่เล่นการพนันหรือบ่อนกาสิโนแบบประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งที่จริงไม่ใช่แบบนั้น ของเราคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หากเปรียบเทียบเรามองถึงสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เราต้องการเดินหน้าให้เกิดเม็ดเงินลงทุน เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทยในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเราเคยโตเฉลี่ยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว 10% 20 ปีที่แล้วเราโต 5% 10 ปีที่ผ่านมาเหลือ 2% แน่นอนว่าประชาชนคนไทยรอการลืมตาอ้าปาก หากยังเป็นตัวเลขนี้มันเป็นไปไม่ได้ วันนี้รัฐบาลจึงพยายามผลักดันเรื่องเศรษฐกิจจนโตมาถึง 2.7 – 2.8% ได้ โดยตั้งเป้าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยศักยภาพที่มีอยู่สุดท้ายต้องโตอย่างต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 5% กลไกเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโต คนไทยทุกคนจะได้รับประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้นได้

เมื่อถามถึงกรณีที่นิด้าโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน พบว่าไม่เห็นด้วยกับโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์จะมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไร ในจุลพันธ์ กล่าวว่า กระบวนการที่ดำเนินการมีอยู่ 2 อย่าง คือ 1 กระบวนการทางกฎหมาย ผ่านกระบวนการทำประชาพิจารณ์มาเรียบร้อย ซึ่งประชาชนเห็นด้วย 80% ส่วนผลโพลที่ออกมาขอให้สื่อมวลชนพูดให้ชัด เขาพูดถึงพนันออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ฉะนั้น ขอให้แยกประเด็นให้ ซึ่งเรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เป็นเรื่องการลงทุนและเติมเม็ดเงินใหม่เข้ามาในระบบเศรษฐกิจผ่านการก่อสร้างหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น มีแหล่งดึงดูดใหม่ๆ ซึ่งตรงนี้ยังไม่เห็นความเห็นคัดค้าน แต่งเชื่อว่าสังคมต้องมีความเห็นที่แตกต่างอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่จะเห็นชอบตรงกันหมด พร้อมกล่าวย้ำว่า ที่ทำโพลออกมาเป็นคนละประเด็นกัน

 

 

ส่วนกรณีเป็นห่วงเรื่องการพนันต่างๆ ตนขอชี้แจงทำความเข้าใจว่า เป็นเรื่องที่ครมเคยมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ไปศึกษา ทั้งเรื่องการพนันออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์ ประมาณ 4-5 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับไอทีต่างๆ ซึ่งมีผลศึกษากลับมายังครมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ได้มีการศึกษาข้อปัญหาเช่นนี้ และส่งมายังครมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งครมก็เห็นชอบและส่งต่อไปยังกระทรวงดีอี กระทรวงมหาดไทย รวมไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปประชุมร่วมกันและยกร่างกฎหมาย ซึ่งสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ซึ่งผ่านมาเพียง 2 สัปดาห์ตนเชื่อว่าน่าจะยังไม่ได้เริ่ม และประชุมไปแล้ว 1 ครั้งก็ยังไม่ได้ไปไหน แต่ก็ต้องรอดูว่าหากประชุมและยกร่างออกมา ว่าจะออกมาในรูปแบบใด

ส่วนครม.ก็ต้องมีหน้าที่พิจารณาอีกครั้งว่าหากส่งกลับมาแล้วจะเห็นชอบหรือไม่ ถ้าผ่านก็ต้องดำเนินการต่อไป อาจจะส่งไปยังสภาฯ พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ก็ยังมีเวลา และความชัดเจนที่จะต้องรอฟังอีกครั้ง

ส่วนทางกฤษฎีกามีข้อทวงจริงหรือข้อเป็นห่วงอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนมากจะมี 2 เรื่องคือ 1คอนเซปต์ ซึ่งมีการชี้แจงว่าเป็นโมเดลทางธุรกิจ อีกแบบหนึ่งที่ต่างประเทศเขาใช้กัน และชี้แจงว่าเป็นเรื่องของหลายธุรกิจประกอบกัน อาทิสนามกีฬา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ประกอบกันและบวกกับกาสิโน ซึ่งนี่คือหลักคิดที่ชัดเจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะธุรกิจบางประเภท อย่างสนามกีฬาหรืออินดอร์ ที่ตนพูดบ่อยๆ หากถามว่ารัฐบาลอยากได้หรือไม่ก็อยากได้ เพราะเราจะได้ดึงนักท่องเที่ยวหรือคอนเสิร์ตระดับโลกมา แต่ที่ผ่านมาเราไม่มีสถานที่ เพราะฉะนั้นจะต้องใช้ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ดึงนักลงทุนในลักษณะนี้ เพราะรัฐบาลมองว่ามันจะช่วยสร้างเม็ดเงินในการเติบโตให้กับประเทศได้ ขณะนี้เป็นแนวหลักในการขับเคลื่อนโดยได้มีการชี้แจงไปแล้ว ส่วนประเด็นของสำนักงาน
เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย มีหลายข้อเสนอที่น่าสนใจ หมายถึงอย่างไรประเด็นดังกล่าวก็มีความสำคัญ เพราะจะเป็นกลไก ในการขับเคลื่อน โครงการที่มีเม็ดเงินเป็นแสนล้าน จึงมีความจำเป็นที่มีสำนักงาน

ส่วนกรณีที่บางคนกังวลเรื่องทุนจีนสีเทา และการพนันผิดกฎหมาย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะต้องมีสำนักงานคอยกำกับดูแล เพราะการที่มีคนมาลงทุนในระดับแสนล้าน เขาก็เป็นห่วงธุรกิจ

เมื่อถามย้ำถึงสัดส่วนของกาสิโนจะอยู่ที่ 10% ใช่หรือไม่นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มีการหารือว่าจะเขียนหรือไม่เขียน ตั้งแต่การยกร่างของกฎหมาย พร้อมยอมรับว่ามันเขียนยากเนื่องจากไม่ได้มีแค่จุดเดียว เพราะเราไม่รู้ว่าสถานการณ์สังคม ในอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร ความเหมาะสมจะเกิดอะไรขึ้น ฉะนั้นจะต้องให้อำนาจของครม.และคนที่จะมากำกับดูแลในอนาคต มีโอกาสในการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง เราคงไม่เขียนกฎหมายหรือไปบังคับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะจะเป็นการจำกัดความคิดสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงเป็นอีกสาเหตุที่เราไม่ได้เขียนในรายละเอียดแนบท้าย ว่ากิจกรรมมีอะไรบ้าง

” สาเหตุที่เราไม่ได้เขียนลิสต์แนบท้าย มีกิจกรรมอะไรบ้าง ซึ่งเราเขียนไว้ 10 อย่าง แต่ข้อที่ 10 คืออื่นๆ เพราะเราเองในฐานะคนเขียนกฎหมายเราไม่มีจินตนาการ บรรเจิดจนคิด ได้ทุกอย่าง จึงต้องเปิดโอกาสให้คนที่จะมาเสนอตัวได้คิดว่าจะเสนออะไร ให้กับประเทศไทย จะเสนออะไรให้กับรัฐ จะเสนออะไรให้กับสังคม ที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจ และสังคม”

 

 

นายจุลพันธ์ ย้ำว่าข้อ 10 คำว่าอื่นๆ คือการเปิดโอกาส ให้คนที่จะมาได้นำเสนอ แต่สุดท้ายกระบวนการจะต้องโปร่งใส

เมื่อถามว่า การที่ให้เวลาคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปยกร่างรวบรวมความคิดเห็น 50 วัน จะทันการประชุมสภาในสมัยนี้หรือไม่ นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า มีและจากที่ได้รับฟังการหารือใน ครม.ก็คิดว่าไม่น่าจะใช้ระยะเวลานานขนาดนั้น และเดินหน้าค่อนข้างเร็ว ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาประชุมถึงสัปดาห์ละ 2 วัน และถ้าเห็นประโยชน์ร่วมกันก็คาดว่าน่าจะราบรื่น ส่วนสุดท้ายสภาจะโหวตให้หรือไม่ตนไม่รู้ เพราะเป็นเอกสิทธิ์ แต่เท่าที่ตนไปออกรายการร่วมกับสส.พรรคหนึ่งหลักคิดก็ไม่ได้แตกต่างกัน เขาเพียงห่วงแต่ประเด็นทางสังคมและประเด็นการฟอกเงิน และเชื่อว่าเมื่อถึงขั้นตอน การพิจารณาของกมธ. มีการร่างและแก้ไขอย่างเต็มที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลดรับตรุษจีน ไฟไหม้ร้านขายของชำ วอดทั้งหลัง 3 พ่อ-แม่-ลูก ดับสลด กอดร่างกันสิ้นใจ
“พิชัย” ชูวิสัยทัศน์ ยกระดับการค้า มั่นใจรัฐบาลพาศก.ไทยโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าเจรจา FTA อียู สำเร็จในปี 68
จนท.เร่งล่า นักโทษหนีคุกโคราช พบเข้ากราบพระในโบสถ์วัด ก่อนหนีหาย
เช็กค่าฝุ่น PM 2.5 เช้านี้ ภาพรวมแนวโน้มดีขึ้น กทม.กลับมาเขียว 20 เขต อีก 20 จุดแต่ละภาคทั่วไทย พบเกินเกณฑ์มาตรฐาน
จนท.เร่งดับไฟป่า "ภูสะนาว" จ. เลย เผาวอดแล้วหลายร้อยไร่
"เลขานุการรมว.กลาโหม" เป็นประธานจัดกิจกรรมจิตอาสา รอบบริเวณอนุสาวรีย์ฯ
"ยุพา" มอบนโยบาย 7 แนวทาง ขับเคลื่อนองค์กร มุ่งสู่เป้าหมายตามพันธกิจ-วิสัยทัศน์
"ตะวันฉาย" กราบสังขารหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม หลังป้องกันแชมป์โลกสำเร็จ "หลวงพี่น้ำฝน" ให้ของดีไว้ติดตัวในโลกมีเพียง 3 ชิ้น
ปธน. สีจิ้นผิงมั่นใจเศรษฐกิจจีนแข็งแกร่งในปีมะเส็ง
"ศุภมาส" เดินหน้า ชู อว. ยกระดับอาหารพื้นถิ่น-อาหารฟังก์ชั่น สู่นวัตกรรมอาหารปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีการฉายรังสี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น