สำหรับพิธีเปิดมีกิจกรรมประกอบด้วย การแสดงขับเสภาเฉลิมพระเกียรติฯ โดยชมรมดนตรีไทยมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา,
การรับชมวิดีทัศน์ “70 พรรษา 70 ล้านซีซี เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
และการเสวนา “แลกเปลี่ยนมุมมอง ผู้ให้ ผู้ใช้ และผู้รับโลหิต” ซึ่งดำเนินการเสวนาโดย พันโทหญิง ชลรัศมี งาทวีสุข และได้รับเกียรติจากวิทยากรรับเชิญ ประกอบด้วย
1. นางสาวภรภัทร ยูนิพันธ์ ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน ประสบการณ์เฉียดตายรอดได้ด้วยการรับโลหิต
2. ผศ.นพ.กวิรัช ตันติวงษ์ รองคณบดีฝ่ายกายภาพ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้บริจาคโลหิต 65 ครั้ง กับแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจที่ได้ให้โลหิต ให้ชีวิตกับผู้ป่วย ความสำคัญเลือดและของการใช้เลือดในการรักษาผู้ป่วย
3. นายแพทย์สุรินทร์ นัมคณิสรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กับบทบาทของกรุงเทพมหานครในการสนับสนุนการจัดหาโลหิต
และ 4.ร้อยเอก สมบัติ (บัวขาว) บัญชาเมฆ ผู้บริจาคโลหิต และพรีเซ็นเตอร์โครงการฯ กับมุมมองเกี่ยวกับการบริจาคโลหิต และเชิญชวนบริจาคโลหิตในโครงการฯ ซึ่งดำเนินการเสวนาโดย พันโทหญิง ชลรัศมี งาทวีสุข
ด้าน รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในปี 2568 ถือเป็นปีมหามงคลที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย
ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2568 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร่วมกับ กองทัพบก และวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
จัดทำโครงการ “70 พรรษา 70 ล้านซีซี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” ผู้ทรงเป็นอุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย
ทูลกระหม่อมอาจารย์ของโรงเรียนนายร้อย พระจุลจอมเกล้า และองค์พระราชูปถัมภ์ของโรงเรียนวัดปทุมวนาราม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย ทรงสนพระราชหฤทัย และให้ความสำคัญกับภารกิจด้านการบริการโลหิตเป็นอย่างมาก
เพราะโลหิตเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตมนุษย์ ซึ่งจะต้องได้มาจากผู้บริจาคโลหิตโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ทรงสนับสนุนการพัฒนางานบริการโลหิต จนทำให้ได้มาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ
ตลอดจนทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิต แก่ผู้บริจาคโลหิตครบตามที่สภากาชาดไทยกำหนด ซึ่งสร้างแรงจูงใจ ความปีติยินดี
และความภาคภูมิใจแก่ ผู้บริจาคโลหิตเป็นอย่างยิ่ง ทำให้มีผู้ประสงค์จะบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพิ่มมากขึ้นทุกปี