เหตุโจรกรรมศิลปะวัตถุโบราณล้ำค่าครั้งล่าสุดในเนเธอร์แลนด์ เกิดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ เดรนตส์ (Drents) เมือง อัสเซน ทางตะวันออกของประเทศ ตำรวจได้รับแจ้งเวลาประมาณ 3 นาฬิกา 45 นาที เช้ามืดวันเสาร์ที่ 25 มกราคม ว่าเกิดเหตุระเบิดที่พิพิธภัณฑ์ฯ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายใช้ระเบิดพังประตู เข้าไปขโมยโบราณวัตถุประเมินค่ามิได้หลายชิ้น โดยเฉพาะหมวกเกราะทองคำ “คอต-โซ-เฟ-เนช-ติ ” ( Cotofenesti) อายุประมาณ 2,500 ปี และกำไลทองคำ 3 ชิ้นอายุประมาณ 50 ปีก่อนคริสตกาล ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปะวัตถุอารยธรรมดาเซีย (Dacia) ที่พิพิธภัณฑ์ 15 แห่งในโรมาเนีย ให้พิพิธภัณฑ์เดรนตส์ของเนเธอร์แลนด์ ยืมวัตถุโบราณทำจากเงิน และทองคำ มากมายหลายร้อยชิ้น ไปจัดนิทรรศการ
ชาวดาเซียน เป็นชนเผ่าอินโด-ยูโรเปียนโบราณ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ของโรมาเนียในปัจจุบันตั้งแต่ยุคสำริด จนกระทั่งถูกพิชิตจากโรมัน ในคริสตศตวรรษที่ 2 ศิลปะของชาวดาเซียน ได้รับอิทธิพลจากชาวกรีก เคลต์ ธราเซียน ไซเธียน และเปอร์เซีย เนื่องจากตั้งอยู่บนเส้นทางแลกเปลี่ยนทางการค้าสำคัญ
หมวกเกราะ หรือมาลา “คอต-โซ-เฟ-เนช-ติ” เป็นหนึ่งในสมบัติแห่งชาติสำคัญที่สุดของโรมาเนีย และถือเป็นไฮไลต์ของนิทรรศการศิลปะวัตถุอารยธรรมดาเซีย ที่จัดมานาน 6 เดือน กำหนดปิดนิทรรศการในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม ก่อนถูกโจรกรรมไปเพียงวันเดียว
นายกรัฐมนตรี มาร์เซล โชลากู แห่งโรมาเนีย โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 มกราคม)ว่า ได้ตั้งทีมงานเฉพาะกิจในระดับรัฐบาล เพื่อเร่งหาทางนำสมบัติของชาติที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา และส่งผู้เชี่ยวชาญโรมาเนียไปทำงานร่วมกับทางการเนเธอร์แลนด์ ด้าน นายราดู มารีเนสคู รัฐมนตรียุติธรรมโรมาเนีย กล่าวว่า นี่เป็นอาชญากรรมต่อรัฐ และความพยายามติดตามกลับคืน เป็นความสำคัญเร่งด่วนอย่างที่สุด
ส่วน เคลาส์ ไอโอฮานิส ประธานาธิบดีโรมาเนีย กล่าวว่า โบราณวัตถุเหล่านี้ มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เป็นพิเศษ การสูญหายไปส่งผลกระทบทางอารมณ์และสัญลักษณ์ที่รุนแรงต่อสังคม”
คลิปกล้องวงจรปิดที่ภาพไม่ชัดมากนัก แสดงให้เห็นชาย 3 คน ใช้ชะแลงขนาดใหญ่งัดประตู จากนั้นก็เห็นการระเบิด ก่อนเข้าไปฉกวัตถุโบราณในเวลาไม่กี่นาที ล่าสุด เมื่อค่ำวานนี้ (27 มกราคม ) เจ้าหน้าที่สืบสวนพบซากรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าคนร้ายต้องการปกปิดร่องรอย เบื้องต้น ตำรวจเชื่อว่ามีผู้ต้องสงสัยหลายคนเกี่ยวข้อง และองค์การตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ได้เข้ามาร่วมสอบสวนแล้ว
อาเธอร์ บลันด์ ผู้เชี่ยวชาญศิลปะเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า ด้วยชื่อเสียงและลักษณะพิเศษของหมวกเกราะที่ถูกโขมยไป อาจขายไม่ได้ง่าย ๆ จึงเกรงกันว่า สิ่งที่คนร้ายต้องการคือ นำไปหลอมเอาทองคำ
ปัจจุบัน ราคาทองคำในตลาดโลกอยู่ที่ประมาณ 8 หมื่น 9 พันดอลลาร์ต่อกิโลกกรัม แต่ประเมินว่าน้ำหนักทองคำของหมวกเกราะน่าจะน้อยกว่านั้นเล็กน้อย
แฮร์รี ทูพาน ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เดรนส์ กล่าวว่า นี่คือวันอันมืดมิดของพิพิธภัณฑ์เดรนตส์ และ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติของโรมาเนีย ในกรุงบูคาเรสต์ เป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ 170 ปีของพิพิธภัณฑ์ และยังก่อความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงต่อเพื่อนร่วมงานของเราในโรมาเนีย
เหตุโจรกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นสองเดือน หลังจากเกิดเหตุคนร้าย บุกเข้าไปในแกลเลอรีที่เมือง ออยส-เตอร์วิก ขโมยผลงานภาพพิมพ์ 4 ชิ้นของ แอนดี วอร์ฮอล ศิลปินแนวป๊อปอาร์ต และยังมีเหตุโจรกรรมในงานแสดงศิลปะที่เมือง มาสทริกต์ ในปี 2565 และที่พิพิธภัณฑ์ ซิงเกอร์ลาเรน ใกล้กับกรุงอัมสเตอร์ดัม ในปี 2563 ซึ่งภาพ “พาร์ซันเนจ การ์เดน แอท นูเนน อิน สปริง 1884” ( (Parsonage Garden at Nuenen in Spring 188 )ของแวนโก๊ะ จิตรกรชื่อก้องโลก ถูกขโมยไป แต่ติดตามคืนมาได้ใน 3 ปีต่อมา ปัจจุบัน อยู่ที่เมือง โกรนิงเงิน