ตัวเต็งคนที่สาม คือ นางสุกัญญา เสาวสาร ภรรยานายพิสิฐ เสือสมิง อดีตนายก อบจ.ปี 2555-2563 โดยนางสุกัญญา เคยเป็นสมาชิกสภา อบจ. และยังมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับสามีในอดีต

ส่วนตัวเต็งคนที่สี่ คือ นายเจษฎา ญาณประภาศิริ หรือ “สจ.กอล์ฟ” อดีตประธานสภา อบจ. ที่รวบรวมสส.เก่าไว้ได้ 16 คน ซึ่งเป็นฐานเสียงกลุ่มเดียวกับ น.ส. กาญจน์สุดา โดยนายเจษฎา เคยเป็น สมาชิก อบจ.หลายสมัย ก่อนหน้านี้ได้หาเสียงภายใต้สโลแกนคือ “สมุทรสงคราม รุ่นเราสานต่อ”

ทั้งนี้สำหรับสนามนายกอบจ. สมุทรสงครามน่าจะขับเคี่ยวกันจนนาทีสุดท้าย และจนถึงขณะนี้ยังฟันธงไม่ได้ว่า ใครจะเป็นผู้ชนะ

ถัดมาอีกหนึ่งสนามเมืองมหาชัย สำหรับศึกชิงนายก อบจ.สมุทรสาคร โดยมีการแข่งกันอยู่ 2 คน คือ นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ หมายเลข 1 และนายเชาวริน ชาญสายชล หมายเลข 2

สำหรับสนามเลือกตั้งนายกอบจ สมุทรสาคร เป็นการแข่งขันกัน ระหว่าง “บ้านใหญ่เฮียม้อ” กับพรรคสีส้ม โดยนายอุดม เป็นอดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร ที่ลงสมัครในนามทีม “ฅนทำงาน” เป็นทายาท นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ หรือ “เฮียม้อ” บ้านใหญ่ โดยนายอุดม แชมป์เก่าถือเป็นตัวจริง เพราะมีพวกเยอะในสนามท้องถิ่นทั้งสายพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยที่พร้อมสนับสนุน

สำหรับนายเชาวรินทร์ ชาญสายชล ผู้สมัครจากพรรคประชน อดีตรอง นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร โดยการเลือกตั้งนายกอบจ.เมื่อปี 2563 นายเชาวรินทร์ สวมเสื้อพรรคเพื่อไทยลงสนาม แต่แพ้นายอุดม ชนิดไม่ได้ลุ้น โดยนายอุดมได้ 131,537 คะแนน ส่วนนายเชาวรินทร์ ได้ 22,553 คะแนน แต่รอบนี้นายเชาวรินทร์ สวมเสื้อสีส้ม โดยมี สส.สมุทรสาคร พรรคประชาชน 3 คน เป็นฐานเสียงที่ประกบเดินสายอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นจึงต้องจับตาว่า สนามเลือกตั้งสมุทรสาครพลังสีส้มจะโค่นบ้านใหญ่ “ไกรวัตนุสสรณ์” ลงได้หรือไม่