ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในบันทึก ( memorandum) สั่งการให้กระทรวงกลาโหม และกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ จัดเตรียมพื้นที่กักขังเพิ่มเติม ที่ฐานทัพกวนตานาโม ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในคิวบา สำหรับจองจำผู้อพยพที่ก่ออาชญากรรมรุนแรง และอยู่ในสหรัฐฯอย่างผิดกฎหมาย
ทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาวก่อนหน้านั้นว่า คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า เรามีเตียงอยู่ถึง 3 หมื่นหลังที่กวนตานาโม สามารถใช้กักขังผู้อพยพผิดกฎหมายเลวร้ายที่สุดและคุกคามชาวอเมริกันได้ และเขาจะสั่งเพิ่มความจุเป็นสองเท่าทันที
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวเรื่องนี้ก่อนลงนามกฎหมาย “เลคเคน ไรลีย์ ( Laken Riley Act) ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่เขาลงนามในการกลับมารับตำแหน่งสมัยที่สอง
กฎหมายฉบับนี้ ตั้งชื่อตาม เลคเคน ไรลีย์ นักเรียนพยาบาลวัย 22 ปีในรัฐจอร์เจีย ที่ถูกฆาตกรรม ขณะออกไปวิ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว โดยผู้ก่อเหตุเป็นผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจากเวเนซุเอลาที่เคยถูกจับกุมสองครั้งก่อนก่อเหตุสะเทือนขวัญ สาระสำคัญของกฎหมาย เลคเคน ไรลีย์ คือการกำหนดให้ผู้ที่อาศัยในสหรัฐฯอย่างผิดกฎหมาย และถูกกล่าวหาว่ามีความผิดจากการลักขโมยหรือความผิดทางอาญาร้ายแรง สามารถถูกจับกุมและส่งตัวกลับประเทศได้ทันทีแม้ยังไม่มีคำตัดสินจากศาลก็ตาม ทรัมป์ กล่าวว่า การลงนามกฎหมายฉบับนี้ ทำให้สหรัฐฯเข้าใกล้กับการกำจัดความเลวร้ายอาชญากรรมจากน้ำมือผู้อพยพผิดกฎหมายในสหรัฐฯอย่างสิ้นซาก
สำนักข่าว CNN รายงานว่า การบริหารศูนย์กักกันกวนตานาโมสำหรับผู้อพยพผิดกฎหมาย จะเป็นความรับผิดชอบของสำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ หรือ ไอซ์ (ICE)
ด้าน คริสติ โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯ กล่าวว่า ฐานทัพกวนตานาโม จะใช้กักขังอาชญากรกลุ่มเลวร้ายที่สุด
ขณะที่ประธานาธิบดี มิเกล เดียซ-กาเนล แห่งคิวบา โพสต์ X วิจารณ์แผนการของทรัมป์ ว่า เป็นการกระทำที่โหดร้าย รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ประกาศคุมขังผู้อพยพหลายพันคนในฐานทัพเรือกวนตานาโม ซึ่งเป็นดินแดนคิวบาที่ถูกยึดครองโดยผิดกฎหมาย และจะนำพวกเขาไปขังไว้ใกล้กับเรือนจำที่รู้จักกันดีว่าใช้กักขังและทรมาน
อ่าวกวนตานาโม อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ปลายสุดของคิวบา เป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯมาตั้งแต่ปี 2441 หลังถูกยึดในระหว่างสงครามสเปน-อเมริกา ฐานทัพแห่งนี้ ถูกใช้เป็นค่ายกักกันผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ที่สหรัฐอเมริกากวาดต้อนมาจากสงครามกวาดล้างผู้ก่อการร้ายในอิรัก อัฟกานิสถานและที่อื่น ๆ หลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 ปัจจุบัน ยังมีผู้ต้องขังอยู่ 15 คน จากที่เคยมีมากสุด 800 คน ท่ามกลางเสียงก่นประณามจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เพราะจำนวนมากถูกขังลืมโดยไม่มีการพิจารณาคดี และถูกสอบสวนโดยใช้วิธีซ้อมทรมาน แต่อีกส่วนหนึ่งของฐานทัพ ยังใช้เป็นศูนย์คัดกรองผู้อพยพทางเรือมานานหลายสิบปี ส่วนใหญ่มาจากคิวบาและเฮติ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอก CNN ว่า สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่นั่น ห่างไกลจากความพร้อมรับผู้อพยพผิดกฎหมาย 3 หมื่นคน ความสามารถในการรองรับอย่างที่เคยมีในคริสต์ทศวรรษที่ 1990 นั้น ไม่มีอีกแล้ว นอกจากนี้ การดูแลคนผู้อพยพมากมายขนาดนั้น ก็จะต้องใช้กำลังคนจำนวนมาก