จังหวัดเพชรบุรีเดินหน้าปราบปลาหมอคางดำไม่หยุด!! รุกยกระดับการจัดการอย่างเข้มข้น ด้วยการริเริ่มจัดตั้ง “กองทุนปลากะพง” ช่วยเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำใช้เป็นปลานักล่าในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และยังต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มปลาหมอคางดำด้วยการขยายผลผลิต “น้ำปลาแท้ตราชาววัง” สู่ 10 ชุมชน เพื่อส่งเสริมการผลิตน้ำปลาคุณภาพสูง และเตรียมขึ้นทะเบียนขอรับรองผลิตภัณฑ์จีไอ (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ – GI) และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนให้แข็งแรง
นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ปลาหมอคางดำในพื้นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจังหวัดบูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานประมง หน่วยงานในพื้นที่ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชนและประชาชน ดำเนินมาตรการจัดการปัญหาปลาหมอคางดำตามแนวทางของกรมประมงอย่างจริงจัง ส่งผลให้ความหนาแน่นของปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติลดลงจาก 80 ตัวต่อ 100 ตารางเมตร เหลือเพียง 12 ตัวต่อ 100 ตารางเมตร ช่วยลดผลกระทบและฟื้นฟูระบบนิเวศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากการกำจัดและควบคุมประชากรปลาหมอคางดำ จังหวัดเพชรบุรียังส่งเสริมเกษตรกรและชุมชนนำปลาหมอคางดำที่จับได้มาแปรรูปเป็นสินค้าอาหารหลากหลาย เช่น ปลาร้า น้ำปลาแท้ ลูกชิ้นปลาบอลชีส และอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการบริโภคให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการนำปลาหมอคางดำมาหมักเป็น น้ำหมักชีวภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชาวนาและเกษตรกร ใช้ในนาข้าวและพืชสวน ช่วยลดต้นทุนเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
นายประจวบ เจี้ยงยี่ ประมงจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ปีนี้ประมงเพชรบุรียังคงเฝ้าระวังและดำเนินมาตรการควบคุมปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” จับปลาหมอคางดำขนาดใหญ่ออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และปล่อยปลานักล่า เช่น ปลาอีกงและปลากะพง ตั้งเป้าจำนวน 10,000 ตัวต่อคลอง ลงใน 18 สายคลอง เพื่อควบคุมประชากรปลาหมอคางดำให้ต่ำกว่า 12 ตัวต่อ 100 ตารางเมตร
ขณะเดียวกัน ประมงจังหวัดยังได้จัดตั้ง “กองทุนปลากะพงเพื่อเกษตรกร” ขึ้น เน้นช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำแบบระบบกึ่งปิด โดยสนับสนุนปลากะพงให้กลุ่มเกษตรกรเป็นทุนตั้งต้น สำหรับจำหน่ายให้สมาชิกในราคาทุน และนำเงินที่ได้ไปซื้อปลากะพงมาขยายผลให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ ได้นำไปใช้ต่อได้
ประมงเพชรบุรียังเผยความคืบหน้าในการจัดตั้ง อาสาสมัครเฝ้าระวังปลาหมอคางดำประจำอำเภอ ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดตั้งผู้นำกลุ่ม และอยู่ระหว่างหาทีมอาสาสมัครเพิ่มให้ครบ 30 ทีม ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ทั้งนี้ การดำเนินงานของจังหวัดเพชรบุรีไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ แต่ยังสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม