“สหภาพการรถไฟฯ” ร้องบก.ปปป.เอาผิด “กรมที่ดิน” ละเลยเพิกถอนสิทธิ์โฉนดเขากระโดง

ทั้งนี้ จากที่อธิบดีกรมที่ดินและคณะกรรมการตามมาตรา 61 ได้มีคำวินิจฉัยไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่มีการออกทับซ้อนที่ดินของการรถไฟโดยที่คณะกรรมการสอบสวนมองว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอ ทั้งที่คำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งถือเป็นคำพิพากษาสูงสุดได้พิจารณาจนสิ้นข้อสงสัยแล้ว แต่ทางด้านของคณะกรรมการสอบสวนก็ยังมีมติที่ขัดแย้งกับคำพิพากษาโดยเฉพาะอธิบดีกรมที่ดินที่มีมีอำนาจหน้าที่ตามกฏหมายกรมที่ดินในการทำหน้าที่ปกป้องรักษาที่ดินของรัฐ เพราะคำพิพากษาของทั้งสองศาลได้พิพากษาอย่างชัดเจนว่าที่ดินทั้งหมด 5,083 ไร่เป็นที่ดินของการรถไฟและการรถไฟก็เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจึงถือว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของรัฐดังนั้นหน้าที่ของกรมที่ดินคือต้องปกป้องคุ้มครองที่ดินของรัฐไว้ โดยมติที่ประชุมของคณะกรรมการตาม มาตรา61 และ คำวินิจฉัยของ อธิบดีกรมที่ดินระบุว่าการรถไฟ ไม่ส่งหลักฐานหรือไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอซึ่งขัดต่อคำพิพากษาของศาล จึง ทำให้การปฎิบัติหน้าที่ถือเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฏหมาย สหภาพจึงมาดำเนินการยื่นหนังสือกองบังคับการกองปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง เพื่อให้มีการดำเนินการและดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

นายสราวุธ ยืนยันว่า การดำเนินการของสหภาพฯไม่ใช่การลงประเด็นแต่เป็นการดำเนินการตามกฏหมายที่ได้ชี้ชัดไว้ โดยเฉพาะ ในส่วนของหลักฐานที่มีทั้งแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม รวมถึงคำพิพากษาของศาล หากอธิบดีกรมที่ดินไม่ดำเนินการก็จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ นั้นในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องที่ถืออำนาจทางกฎหมายก็ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องและ โดยหลังการเพิกถอนการดำเนินการจะเป็นอย่างไรการรถไฟก็มีแนวทางในการปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ โดยอาจเป็นการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยเท่านั้น

ทั้งนี้ ในส่วนของที่ดินเขากระโดง ถือเป็นพื้นที่ที่ใช้ดำเนินการในเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรานได้ โดยหลังจากนี้หากอธิบดีกรมที่ดินไม่ดำเนินการเพิกถอนที่ดินเหล่านี้จะทำให้การรถไฟเสียโอกาสและสร้างความเสียหายในการนำที่ดินเหล่านี้ ไปสร้างรายได้เพื่อนำมาชดเชยการขาดทุน และเสริมสภาพคล่อง ของการรถไฟฯอย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ สหภาพฯจะมีการติดตามในเรื่องการจรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ว่าทางเจ้าพนักงานสอบสวนจะมีการดำเนินการเช่นไรกับผู้กระทำผิด