AP และ AFP รายงานว่ามาร์โก้ รูบิโอ้ รัฐมนตรีต่างประเทศใหม่ถอดด้ามของสหรัฐภายใต้รัฐบาลทรัมป์ได้เดินทางถึงกรุงปานามา ซิตี้เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น (เสาร์ที่ 1 กพ.) โดยจะพบหารือกับประธานาธิบดีโฮเซ่ ราอูล มูลิโน่ และไปเยี่ยมชมคลองปานามาในวันนี้ (อาทิตย์ที่ 2 กพ.)
หลังออกจากปานามา รูบิโอ้จะไปเยือนอีก 4 ประเทศอเมริกากลางรวมทั้งเอล ซาลวาดอร์, คอสตาริก้า, กัวเตมาลาและสาธารณรัฐโดมินิกันต่อเพื่อกดดันและหารือเรื่องปัญหาผู้ลี้ภัยผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้าสหรัฐ ซึ่งทริปต่างประเทศแรกของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในรัฐบาลทรัมป์ถือว่าแตกต่างจากรัฐมนตรีต่างประเทศคนอื่นๆที่ส่วนใหญ่จะประเดิมทริปแรกด้วยการสานสัมพันธ์กับชาติพันธมิตรสำคัญ
การเยือนปานามาของรูบิโอ้มีขึ้นเพื่อสานต่อคำขู่ของทรัมป์ที่ประกาศจะยึดคลองปานามากลับคืนมาเป็นของสหรัฐระหว่างกล่าวปราศรัยในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม และวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ยังยืนกรานจุดยืนเดิม โดยกล่าวว่ารัฐบาลปานามาพยายามยื่นข้อเสนอต่างๆนานา แต่เขาเชื่อว่าการยึดคลองปานามากลับมาเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมูลิโน่ปฎิเสธที่เปิดการเจรจาในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าคลองปานามาเป็นของปานามา และได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสหประชาชาติว่าถูกทรัมป์ข่มขู่ ขณะเดียวกัน มูลิโน่ก็ได้สั่งให้มีการตรวจสอบบัญชีของบริษัทซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของฮ่องกงที่บริหารจัดการท่าเรือทั้งที่ต้นทางและปลายทางของคลองปานามา
ก่อนออกเดินทาง รูบิโอ้ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุซีเรียสเอ็กซ์เอ็ม (SiriusXM Radio) ว่าทรัมป์ต้องการเข้าไปบริหารจัดการคลองปานามาอีกครั้ง และว่าสหรัฐจะไม่ยอมให้ชาติอื่น โดยเฉพาะจีน เข้าไปควบคุมคลองปานามา ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและแปซิฟิค และร้อยละ 40 ของเรือสินค้าสหรัฐก็ใช้เส้นทางนี้ ทั้งนี้ทูตพิเศษสหรัฐประจำภูมิภาคละตินอเมริกากล่าวหาปานามาว่าขึ้นค่าผ่านทางกับเรือสินค้าสหรัฐอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งๆที่สหรัฐให้ความช่วยเหลือเรื่องค่าบำรุงรักษาคลอง
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าทรัมป์พยายามกดดันปานามาเพื่อเปิดทางให้สหรัฐเข้าไปลงทุนและบริหารจัดการคลองปานามาแทนจีน