Top news รายงาน วันที่ 3 ก.พ.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผยภายหลังประชุม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประมวลข้อมูลด้านความมั่นคงเพื่อส่งให้ กฟภ. พิจารณา ระงับการจ่ายไฟพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมาที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมด 5 จุด ประกอบด้วย จุดซื้อขายบริเวณบ้านเจดีย์สามองค์ – เมืองพญาตองรัฐมอญ ,จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน เมียนมา,จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – พม่า – เมืองท่าขี้เหล็ก ,จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – พม่า แห่งที่ 2 – อ.เมียวดี,และจุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง – อ.เมียวดี ว่า ที่ผ่านมาสมช.มีการติดตามมีการติดตามเรื่องการหลอกลวงออนไลน์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีการประชุมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและกระทรวงมหาดไทยในการกำหนดแนวทางที่ชัดเจน ข้อมูลให้เกิดความรอบคอบในการตรวจสอบกลั่นกรองข้อมูลให้รอบคอบมากขึ้น ซึ่งสมช.ก็มีข้อมูลที่จะส่งให้ กระทรวงมหาดไทยและกฟภ.อยู่แล้ว
โดยในวันนี้ที่ประชุมได้ประมวลข้อมูลด้านความมั่นคง มีหลักฐานที่เชื่อมั่นและมีหลักฐานปรากฏระดับหนึ่งที่จะส่งให้ กระทรวงมหาดไทยและกฟภ. โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอาญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณา ซึ่งพบข้อมูลสำคัญ 6 ประเด็น คือ1.ข้อมูลด้านความมั่นคง พื้นที่ตั้งจุดต่างๆที่เชื่อว่ามีความเสี่ยง และมีหลักฐานระดับหนึ่งว่าเกี่ยวพันกับกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมามีหลายจุด ทั้งที่แม่สาย เมียวดี พญาตองซู
2.พบว่ามีความเชื่อมโยงของบุคคลในบริษัทสัมปทาน กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงบ่อนกาสิโน ซึ่งเป็นเรื่องของตัวบุคคลที่อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าเชื่อมโยงกับการจำหน่ายไฟ ในเมียนมา
3.พบข้อมูลเรื่องการใช้ไฟเพิ่มผิดปกติ และมีความต้องการขอการใช้ไฟเพิ่ม โดยไม่สามารถอธิบายได้ว่าจะเอาไปทำอะไร ถือว่ามีความพยายามถือว่ามีความพยายามในช่วงที่ผ่านมา แต่เราไม่ได้อนุมัติไป
4.รัฐบาลไทยเคยตัดไฟไปแล้วที่ชเวก๊กโก กับเจเจพาร์ค แต่ก็ปรากฏว่ายังสามารถประกอบกิจการได้ อาจจะเป็นการใช้น้ำมันปั่นไฟหรือไม่ก็ต้องไปดู
5.เราเห็นว่าสัดส่วนการใช้ไฟเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณา ว่าแต่ละจุดเป็นอย่างไร จะได้นำมาประกอบการพิจารณาจึงมีการขอข้อมูลจากในพื้นที่
6.จุดที่มีการตัดไฟไปแล้วเราก็พบว่ามีหลักฐานบางอย่างเชื่อมโยงว่ามีการเปิดเส้นทางใหม่ ด้วยการเอาใช้ไฟจากจุดอื่นมายังจุดที่ตัดไฟไปแล้ว
ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จัดส่งให้กฟภ.และมหาดไทยไปพิจารณาตามกฏหมาย และเงื่อนไขที่กำหนดกับบริษัทคู่สัญญา
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า วันนี้สมช.มีมติ 3 เรื่อง คือ สมช. ประมวลข้อมูลด้านความมั่นคงทั้งหมดส่งให้กฟภ.นำข้อมูลไปเจรจากับบริษัทคู่สัญญาเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการที่เหมาะสม ให้เป็นไปตามสัญญาจากมาตรการเบาไปหาหนักในการพิจารณาจ่ายไฟ และล่าสุดการไฟฟ้าก็ทำงานเชิงรุก โดยได้แจ้งบริษัทคู่สัญญาไปแล้วว่ามีความกังวลเรื่องการใช้ไฟที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นตามสัญญาซึ่งได้มีส่งหนังสือแจ้งไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกันมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับรัฐบาลเมียนมาในการที่จะไปกำชับให้บริษัทคู่สัญญาซึ่งเป็นบริษัทที่รัฐบาลเมียนมาอนุมัติให้มาทำสัญญาสัมปทานกับไทยเพื่อไปตรวจสอบว่า ตรงไหนมีขายไฟในจุดที่ไม่เหมาะสมและขายไฟให้กับกลุ่มผิดกฎหมาย รวมทั้งขอให้มีคณะทำงานตรวจสอบจากฝั่งไทยร่วมกับเมียนมาว่าจุดไหนที่ยังมีปัญหาอยู่เพื่อเห็นชอบตรงกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นมาตรการเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นกับบริษัทคู่สัญญาของ กฟภ.ใน5 จุด เป็นมาตรการเฉพาะหน้า