“ประเสริฐ” แจงสภาฯ คาดพ.ร.ก.ไซเบอร์ ประกาศใช้ ก.พ. นี้ ลุยพัฒนาแอปแจ้งตัวตนโทรเข้า เข้มตรวจสอบคนใช้โทรศัพท์เกิน 100 สายต่อวัน
ข่าวที่น่าสนใจ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจง ว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ผ่านความเห็นชอบ การแก้ไข ร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่…) พ.ศ…. เมื่อเดือน ม.ค. และขณะนี้อยู่ระหว่างที่กฤษฎีกาดูรายละเอียดเล็กน้อย คาดว่าจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ภายในเดือน ก.พ.นี้ สำหรับสาระสำคัญ ของร่าง พ.ร.ก. อาทิ ให้ธนาคารรายงานข้อมูลการเงิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) เพื่อให้การคืนเงินแก่ผู้เสียหายทำได้รวดเร็ว และมีกำหนดโทษผู้ที่ซื้อขาย หรือเปิดเผยรายการส่วนบุคคล ทั้งที่ทำเพื่อการค้าหรือเสนอว่าจะให้ รวมถึงให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการโทรคมนาคม สื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน หากไม่ระมัดระวังดูแลระบบที่ปลอดภัย
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการพนันออนไลน์ตนจะรับไปพิจารณาอีกครั้ง ส่วนการแก้ปัญหาซิมม้านั้น ทางกระทรวงฯได้ตรวจสอบการถือครอง และมีมาตรการให้ศูนย์บริการโทรศัพท์และกสทช. ให้ผู้ที่ถือครองซิมจำนวนมากมาชี้แจง รวมถึงการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ที่เกิน 100 สายต่อวัน ว่ามีเหตุผลอะไร หากไม่สามารถตอบเหตุผลที่เพียงพอได้ จะระงับซิมโทรศัพท์
นายประเสริฐ กล่าวว่า “การเปิดซิมบัญชีม้า ปัจจุบันมีราคาหมื่นบาท ส่วนบัญชีนิติบุคคลมีราคาหลักแสนบาท ซึ่งกระทรวงฯได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้จากการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ ศูนย์เอโอซี 1441 เพื่อรับเรื่องร้องเรียน และตั้งแต่เริ่มต้นทำงานพบว่ามีการร้องเรียน ประมาณ 3,000 สายต่อวัน ส่วนปัจจุบันยังมีจำนวนเท่าเดิม แต่พบว่ามียอดความเสียหายต่อวันลดลง 40% ทั้งนี้ยอมรับว่ายังมีความเสียหายอยู่ จึงต้องทำงานหนักเพื่อบูรณาการการทำงาน และยกระดับความช่วยเหลือประชาชน คาดว่าจะเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว”
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการป้องกันระยะยาวนั้น รัฐบาลได้พัฒนาระบบการป้องกันการโทรศัพท์หลอกลวง ซึ่งระบบจะเสร็จในเวลาอันใกล้ เมื่อระบบเสร็จแล้ว ใครลงแอปพลิเคชันแล้ว จะทราบว่าผู้ใดโทรศัพท์เข้ามา รวมถึงการยืนยันตัวตนให้เข้มข้น ขณะที่ศูนย์เอโอซี 1441 ให้บริการ 24 ชั่วโมง รวมถึงมีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โดย 1 เดือนมีข่าวปลอมเป็นล้านข่าว จึงต้องคัดและลบทิ้ง ดังนั้นแพลตฟอร์มออนไลน์ หากปล่อยให้เกิดโดยไม่ใช้ระบบป้องกันเพียงพอ ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง