AFP รายงานว่ากลุ่มผู้ประท้วงชาวเยอรมันราว 1 แสน 6 หมื่นคนถึง 2 แสนคนออกมาชุมนุมกลางกรุงเบอร์ลินเมื่อวานนี้โดยแสดงพลังคัดค้านหลังจากพรรคริสเตียน เดโมแครตยูเนี่ยน (CDC) ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมได้หันมาร่วมมือกับพรรค AFD ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดสุดโต่งผลักดันร่างกฎหมายต่อต้านผู้ลี้ภัยและชาวต่างชาติที่ไม่มีเอกสาร โดยทั้งสองพรรคได้ร่วมกันเสนอร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกสส.ตีตกระหว่างการลงมติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้พากันประณามความร่วมมือระหว่างสองพรรค และว่าพรรค CDC ซึ่งขณะนี้เป็นฝ่ายค้านได้ละเมิดข้อตกลงซึ่งทำเอาไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ห้ามทำงานร่วมกับกลุ่มขวาจัดในระดับชาติ เนื่องจากเป็นความพยายามป้องกันแนวคิดขวาสุดโด่งแบบนาซีฟื้นคืนชีพ
กลุ่มผู้ประท้วงชี้ว่าการที่พรรค CDC ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้า่นหลักได้หันมาจูบปากกับปีศาจร้ายและผลักดันกฎหมายต่อต้านผุ้ลี้ภัยถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างยิ่ง ท่ามกลางความวิตกว่าพรรค AFD อาจชนะการเลือกตั้งรัฐสภาที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ และได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยโพลล่าสุดชี้ว่า AFD มีคะแนนนำเป็นอันดับสอง ตามหลัง CDC ซึ่งนำมาเป็นที่ 1
ด้านนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอล์ซ ออกมาเตือนว่าหากสองพรรคจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลก็จะถือว่าอันตรายและอาจเปลี่ยนเยอรมนีให้เป็นประเทศอนุรักษ์นิยมขวาจัดเหมือนหลายประเทศในยุโรป ที่พรรคขวาจัดชนะเลือกตั้งขึ้นมาเป็นรัฐบาล พร้อมเรียกร้องชาวเยอรมันให้ปฏิเสธพรรค AFD และกลุ่มขวาจัด
พรรค CDC ประกาศจะเปลี่ยนนโยบายผู้ลี้ภัยที่อ้าแขนรับผู้อพยพแบบไม่มีเงื่อนไข หลังจากเกิดเหตุชายชาวอัฟกันใช้มืดไล่แทงเด็กๆที่โรงเรียนอนุบาล