BBC และโพลิติโก รายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่รัฐแมรี่แลนด์เมื่อวานนี้ (อาทิตย์ที่ 2 กพ.) โดยประกาศว่ากลุ่มประเทศอียูจะเป็นรายต่อไปที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า และตนจะลงนามคำสั่งในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจ โดยกล่าวว่า “อียูไม่ซื้อรถจากอเมริกา, ไม่ซื้อสินค้าด้านการเกษตร, แทบจะไม่ซื้ออะไรเลย แต่สหรัฐซื้อทุกอย่างจากอียู ซื้อรถหลายล้านคัน, ซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์จากฟาร์มจำนวนมาก”
สำหรับสหราชอาณาจักร ทรัมป์บอกว่าเกินดุลย์การค้าสหรัฐเช่นกัน แต่เนื่องจากเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จึงสามารถพูดคุยตกลงกันได้ในเรื่องนี้ ทรัมป์กล่าวว่าเขาได้ต่อสายและมีการพบหน้าพูดคุยกับสตาร์เมอร์หลายครั้ง และการพูดคุยเป็นไปด้วยดี
เมื่อวานนี้ กลุ่มอียูซึ่งประกอบด้วย 27 ชาติสมาชิกออกมาตำหนิทรัมป์ที่ลงนามคำสั่งให้เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา, เม็กซิโกและจีน โดยแคนาดาและเม็กซิโกถูกเรียกเก็บ 25% ส่วนจีน 10% มีผลบังคับใช้พรุ่งนี้ (วันอังคารที่ 4 กพ.) ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกันนี้อียูเตือนว่าอียูจะตอบโต้อย่างแน่นอนถ้าทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากอียู