AFP และรอยเตอร์สรายงานว่ามาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลงผ่าน X เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 3 กพ.) แสดงความยินดีที่ประธานาธิบดีโฮเซ่ ราอูล มูลิโน่ ของปานามารับปากว่าจะไม่ต่ออายุข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือโครงการ Belt and Road ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างระดับโลกจีนที่จะหมดอายุลงภายใน 2-3 ปี และกำลังทบทวนว่าอาจจะยกเลิกก่อนกำหนด
การแถลงของรูบิโอมีขึ้นหลังจากการเดินทางเยือนปานามาและได้พบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีมูลิโน่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อกดดันให้ปานามากำจัดอิทธิพลของจีนและหันมาฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐแทน โดยยกเรื่องการยึดคลองปานามามาข่มขู่
ทั้งนี้ปานามาเป็นประเทศแรกในภูมิภาคละตินอเมริกาที่เข้าร่วมโครงการ Belt and Road ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในปี 2560 หลังยกเลิกความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและหันไปสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนแทน อย่างไรก็ตามโครงการ Belt and Road ถูกชาติตะวันตกกล่าวหาว่าเป็นความพยายามของจีนที่ต้องการสร้างหนี้ให้ประเทศต่างๆเพื่อเสริมสร้างอิทธิพลของตัวเอง
ด้านนายฟู่ ชง เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็นได้แถลงข่าวชี้ว่าการตัดสินใจของปานามาเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และว่าการใส่ร้ายโครงการ Belt and Road ของสหรัฐและชาติตะวันตกไม่มีมูลความจริง
ในส่วนของคลองปานามา เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 3 กพ.) ทนายความปานามาได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังศาลสูงเพื่อให้ยกเลิกสัมปทานโครงการบริหารจัดการท่าเรือ 2 แห่งบนคลองปานามาของบริษัทซีเค ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ (CK Hutchison Holdings) ของฮ่องกงซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2540 และมีการต่ออายุโดยอัตโนมัติในปี 2564 อีก 25 ปี โดยทนายความอ้างว่าสัมปทานดังกล่าวละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญของปานามา นอกจากนี้ย้งกล่าวหา ซีเค ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ว่าไม่จ่ายภาษีและผลประโยชน์ที่ได้จากการบริหารจัดการคลองให้กับรัฐบาลปานามา
ความพยายามกำจัดอิทธิพลจีนออกจากปานามามีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐประกาศจะยึดคลองปานามากลับมาเป็นของสหรัฐ หลังจากสหรัฐลงทุนก่อสร้างและส่งมอบคืนให้ปานามาในปี 2542 โดยทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐมอบคลองปานามาคืนให้ปานามา ไม่ใช่ให้จีน