“กูรู” เห็นกับตา! ทหารพม่าตั้งฐานคุมเชิงวัดเชียงใหม่ จ้อง นทท.ไทยตาเขม็ง

“นายกสมาคมภูมิภาคศึกษา” เจอมากับตัว! ทหารพม่าวางกองกำลังคุมเชิงที่วัดฟ้าเวียงอินทร์ จ.เชียงใหม่ ขีดเส้นคนไทยห้ามเข้าครึ่งพื้นที่ในวัด จ้องนักท่องเที่ยวตาเขม็ง

“กูรู” เห็นกับตา! ทหารพม่าตั้งฐานคุมเชิงวัดเชียงใหม่ จ้อง นทท.ไทยตาเขม็ง – Top News รายงาน

 

ผ่านปีใหม่เข้าเดือนที่ 2 แล้ว แต่ก็ยังเงียบกริบ ไม่มีสัญญาณว่าบวกหรือลบ สำหรับกรณีกองกำลังว้าแดง รุกล้ำชายแดน แม้ตอนนี้กระแสจะเงียบลงไป แต่เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็ยังคงให้ความสนใจ อยากรู้ความคืบหน้า ปนไปด้วยความหวาดระแวง ว่าสุดท้ายแล้ว เราจะรักษาอธิปไตยในจุดที่มีการรุกล้ำเข้ามาได้หรือไม่

ล่าสุด ทีมข่าวไปเห็นโพสต์ของ รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษา และอาจารย์สาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ต้องบอกเลยว่าเครียดหนักกว่าเดิม อาจารย์ท่านโพสต์ถึงประเด็นนี้ไว้อย่างไร เรามาฟังพร้อมกันค่ะ

เจอทหารพม่าที่วัดฟ้าเวียงอินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 26-27 มกราคม 68 ผมได้เดินทางร่วมกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ไปยังอำเภอเวียงแหง และอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบเรื่องฐานทหารว้าแดง และสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า

ผมและคณะ ได้เดินทางไปวัดฟ้าเวียงอินทร์ ตำบลเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ สันนิษฐานกันว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่เจดีย์เก่า สมัยพระนเรศวรมหาราช (ตามทฤษฎีที่เชื่อว่า พระนเรศวรทรงเดินทัพ และมาสวรรคตที่เวียงแหง) โดยมีเจดีย์มารซินะเจดีย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกเป็นภาษาไทใหญ่ว่า กองมู-แหลนเหลิน (หมายถึง “พระธาตุเขตแดน”) ตั้งตระหง่านแบบโดดเด่น

กูรู

ข่าวที่น่าสนใจ

จุดเด่นของวัดฟ้าเวียงอินทร์ คือ การมีเขตแดนผ่าวัด ออกเป็นสองแผ่นดิน โดยในอดีตนั้น พื้นที่แถบนี้ เป็นเขตอิทธิพลของกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ ภายใต้การนำของขุนส่า แต่เมื่อขุนส่าวางอาวุธ แก่รัฐบาลทหารพม่า พื้นที่วัด ก็ถูกแบ่งเป็นสองส่วน มีมารซินะเจดีย์องค์สีเหลือง พร้อมด้วยหอสวดมนตร์ หอระฆัง ศาลา วิหารหลังใหม่ ตั้งอยู่ในฝั่งไทย ส่วนกุฎิ , อุโบสถหลังเก่า อยู่ในเขตพม่า

แม้จะอยู่ในเขตประเทศไทยและประเทศพม่า แต่วัดแห่งนี้ ล้วนถูกก่อสร้างแบบศิลปะไทใหญ่ ทั้งนี้ นายพลโมเฮง หรือเจ้ากอนเจิง อดีตประธานกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ ก็เคยมีบทบาทสำคัญในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ โดยด้านหลังของวัด ยังเป็นที่ตั้งสุสานของนายพลโมเฮง และเจ้ายอดศึก ประธานสภากอบกู้รัฐฉาน พร้อมครอบครัวทหารไทใหญ่ ก็เดินทางมาทำบุญ และทำพิธีสักการะบูชานายพลโมเฮง อยู่ที่วัดฟ้าเวียงอินทร์เป็นประจำ

ผมพิจารณาดูแล้ว เห็นว่าวัดฟ้าเวียงอินทร์ น่าจะถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแถบชายแดนไทย-พม่า เพราะสะท้อนแหล่งอารยธรรมไทใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนผืนแผ่นดินไทยและพม่า ทว่า พื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว จะอยู่เพียงแค่ฝั่งไทยเท่านั้น เพราะตรงฝั่งพม่า จะพบค่ายทหาร และโรงนอนอาศัยของทหารพม่า หลายหลังคาเรือน สิ่งปลูกสร้างในค่ายทหารพม่า ได้ตั้งล้อมบดบังกุฎิหลังเก่า ของวัดฟ้าเวียงอินทร์ โดยนักท่องเที่ยวมิอาจเข้าไปชมพื้นที่วัดตรงฝั่งพม่าได้ สรุปก็คือ วัดฟ้าเวียงอินทร์ เป็นหนึ่งวัดสองแผ่นดิน ที่เดินเที่ยวได้แค่ฝั่งไทยเท่านั้น เพราะถ้ามองไปผืนวัดฝั่งพม่า ก็จะเจอแต่ทหารพม่า เดินตรวจตราสังเกตนักท่องเที่ยวกันอยู่เนืองๆ

งานพัฒนาและป้องกันชายแดนไทย-พม่า ยังมีอะไรที่ต้องแก้ไขอีกมาก การวางกำลังของทหารพม่า ทหารไทใหญ่ และทหารว้าแดง ก็มีลักษณะที่น่าสนใจ ตรงวัดฟ้าเวียงอินทร์ ผมพบแต่การวางกำลังของทหารพม่าล้วนๆ ซึ่งไม่มีหลักฐานหรือข้อวินิจฉัยแน่ชัดว่า ได้ล้ำแดนไทยหรือไม่ หากแต่ก็เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว ระหว่างสองประเทศ

ส่วนพื้นที่วางกำลังของทหารไทใหญ่ในแถบนี้ ก็ไม่พบปัญหาการละเมิดอธิปไตยไทย มีแต่ประชากรพื้นถิ่นในเปียงหลวง  เวียงแหง ที่มักเป็นคนไทยเชื้อสายไทใหญ่ และก็ผูกพันอยู่อาศัยในพื้นที่มานาน หากแต่ในบริเวณอื่นของชายแดน ด้านอำเภอเวียงแหง เช่น ดอยกิ่วช้างกั๊บ ได้ปรากฎการวางกำลังทหารของว้าแดงล้วนๆ พร้อมมีหลักฐานหรือข้อวินิจฉัยที่แน่ชัดว่า ว้าแดงได้ล้ำแดนไทยจริง!

นอกจากนี้ อาจารย์ยังได้โพสต์ข้อมูลที่น่าตกใจด้วยว่า พบฐานทหารว้าแดงล้ำแดน ที่จังหวัดเชียงใหม่  ตลอดแนวชายแดนไทย-พม่า ตรงจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พบฐานทหารว้าแดง ล้ำแดนเข้ามาในแผ่นดินไทยประมาณ 9 จุด โดยเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ผมไปตรวจจุดภูมิประเทศจริง ซึ่งพบฐานทหารว้าแดง ตั้งล้ำเข้ามาตรงเขตชายแดนด้านอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้แก่ ดอยหนองหลวง และดอยหัวม้า ต่อมาในวันที่ 26-27 มกราคม 68 ผมได้เดินทางร่วมกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ไปยังอำเภอเวียงแหง และอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบเรื่องฐานทหารว้าแดง และสถานการณ์ชายแดนโดยรวม

ทั้งนี้ ตรงบริเวณที่ไม่ไกลนักจากช่องหลักแต่ง หมู่บ้านเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง มีหน่วยกองร้อย ของหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ตั้งตรวจตราพิทักษ์แนวเขตแดนไทยอยู่ ในพื้นที่แถบนั้น (ฐานปฏิบัติการบ้านแปกแซม หมวดทหารม้าที่ 13 กองร้อยทหารม้าที่ 1) ได้รายงานว่า มีฐานทหารว้าแดง ที่ล้ำแดนไทย ตรงดอยกิ่วช้างกั๊บ ตลอดจนดอยไฟ และดอยถ้วย โดยหน่วยในพื้นที่ได้ทำการประท้วงทางการพม่าไปแล้ว ตามช่องทางกลไกที่มีอยู่ในระดับท้องถิ่น จึงรอแต่คำสั่งจากหน่วยงานระดับสูงอีกที ว่าจะมีแนวทางจัดการปัญหานี้อย่างไร

จากการได้เห็นภูมิประเทศจริง ผมเห็นว่าทหารว้าแดงนั้น ตั้งฐานปฏิบัติการรุกล้ำเข้ามาค่อนข้างชัดเจนในฝั่งไทย เพราะตั้งฐานคร่อม หรือพ้นเลยจากแนวสันเขา , สันปันน้ำ ในลักษณะที่เข้าลึกมาทางฝั่งไทย และหากยืนจากฝั่งไทยแล้ว เราจะสามารถมองเห็นฐานทหารว้าแดงได้แบบชัดเจน ประกอบกับชื่อดอยต่างๆ เช่น ดอยกิ่วช้างกั๊บ ดอยไฟ และดอยถ้วย ก็เป็นชื่อที่มาจากภาษาไทย หรือภาษาถิ่นภาคเหนือ (ไม่ใช่ภาษาว้า หรือภาษาพม่า)

ครับ เรื่องว้าแดง เราคงต้องรอดูว่า รัฐบาลและกองทัพไทย จะมีวิธีการอย่างไร ในการโน้มน้าวกดดันให้ว้าแดง ถอนทหารออกจากแผ่นดินไทย ณ วันนี้ ว้าแดงมีทั้งการตั้งฐานในชัยภูมิ แบบสูงข่ม คุมต้นน้ำบางสาย ที่ไหลไปหล่อเลี้ยงราษฎรไทย ว้าแดงยังมีรายได้มหาศาลจากการค้าหลากหลายรูปแบบ และมีกลุ่มกองกำลังที่โด่งดัง ขึ้นชื่อในเรื่องของการผลิตฝิ่น เฮโรอีน และยาเสพติด

เกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการปกป้องอธิปไตยของรัฐไทย ทำไมจึงปล่อยให้ว้าแดงล้ำแดนไทย และสร้างผลกระทบต่อสังคมไทยได้ถึงขนาดนี้ จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ช่วยติดตามสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไปครับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีน-มาเลเซียถกความร่วมมือเศรษฐกิจรับมือภาษีสหรัฐ
"นักวิชาการชีวเคมี" ย้ำไทย-สหภาพยุโรป ห่วงสุขภาพปชช. ไม่อนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการผลิตเนื้อหมู เสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภค
"นายกฯ" ขึ้น ฮ. บินสำรวจสภาพจราจร ถนนมิตรภาพ - พระราม 2  เตรียมพร้อมปชช.เดินทางช่วงสงกรานต์
"ชัชชาติ" ยันเร่งเร็วสุด แจงรออัยการตอบข้อกม.จ่ายหนี้รถไฟฟ้าสีเขียว หยุดภาระดอกเบี้ยวันละ 5.4 ล้าน
ไทยโชว์พลังซอฟต์พาวเวอร์! สวนนงนุชนำขบวนดอกไม้ไทยร่วมเทศกาลระดับโลกที่เนเธอร์แลนด์
นักท่องเที่ยวแห่บุรีรัมย์ "ชิดชนก" จัดเต็มสีสันผ้าไทยรับสงกรานต์ เม็ดเงินสะพัด 40 ล้าน
"นฤมล" ย้ำจุดยืนปกป้องเกษตกร ไม่ยอมนำผลประโยชน์คนไทย เป็นเงื่อนไขแลกเจรจา "ภาษีทรัมป์"
"สก.นภาพล" จี้ "ชัชชาติ" เร่งเคลียร์หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว เสียดายภาระดอกเบี้ยวันละ 5.4 ล้าน ควรใช้นำพัฒนากทม.
เวียดนามเริ่มเจรจาการค้าปมภาษีตอบโต้กับสหรัฐแล้ว
มูลนิธิมาดามแป้ง มอบอาหารและของใช้จำเป็น มูลค่า 100,000 บาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมียนมา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น