“สาวไทย” เล่านาทีชีวิต ถูกแก๊งจีนเทา จับฉีดยากระตุ้น หลอกบังคับขาย “ไข่” สืบพันธุ์ ผสมเทียม

แก๊งจีนเทาหลอกอุ้มบุญ ที่แท้หวังดูดไข่ผู้หญิงไปขาย

“สาวไทย” เล่านาทีชีวิต ถูกแก๊งจีนเทา จับฉีดยากระตุ้น หลอกบังคับขาย “ไข่” สืบพันธุ์ ผสมเทียม – Top News รายงาน

 

สาวไทย

 

ผู้เสียหายหญิงชาวไทย เล่าวินาทีชีวิต หลังถูกแก๊งจีนเทาร่วมกับชาวไทยหลอกไปอุ้มบุญที่ประเทศจอร์เจีย จับฉีดยากระตุ้นการตกไข่หวังดูดไปขายทอด ขณะที่ มูลนิธิปวีณาหงสกุลช่วยเหลือเด็กและสตรี เตรียมยื่นหนังสือถึงผบ.ตร. หวังพึ่งหน่วยงานรัฐเข้าช่วยเหลือหญิงชาวไทยอีกกว่า 100 ชีวิตกลับบ้าน

 

จากกรณีที่มีผู้เสียหายหญิงต่างจังหวัดรายหนึ่งเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 หลังถูกแก๊งจีนเทาร่วมกับคนไทยหลอกไปอุ้มบุญที่ประเทศจอร์เจีย โดยอ้างว่าถูกกฎหมายและมีค่าจ้างให้ประมาณ 400,000 – 600,000 บาท พร้อมกับขอร้องให้ช่วยเหลือผู้เสียหายรายอื่นๆที่เป็นหญิงไทยอีก 3 คน

จนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ทางทีมงานมูลนิธิฯจึงประสานไปยัง พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.ตำรวจกองการต่างประเทศ สนธิกำลังร่วมกับตำรวจสากลประเทศจอร์เจีย เข้าไปช่วยเหลือ 3 สาวไทยออกมาได้อีก ในวันที่ 4 ตุลาคม 2567 และนำตัวไปพักฟื้นที่เซฟเฮาส์ของตำรวจสากลเป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน แต่ทางมูลนิธิฯก็ได้วิดีโอคอลพูดคุยและสอบถามกันอยู่ตลอด ก่อนจะส่งตัวคืนให้กับทางตร.ไทยและเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา

ทีมข่าวท็อปนิวส์ได้สัมภาษณ์นางเอ (สงวนชื่อจริง-นามสกุล) ผู้เสียหาย 1 ใน 4 คน ที่ทางมูลนิธิฯได้ช่วยเหลือกลับมายังประเทศไทยได้ ให้ช่วยเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงสถานการณ์ตอนทำงานอยู่ในประเทศจอร์เจียว่าเป็นอย่างไร

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย นางเอ เปิดเผยว่า ตนอยากหารายได้เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านและเลี้ยงครอบครัว ช่วงเดือน ก.ค.67 จึงเปิดหางานในอินเตอร์เน๊ตเจองานสำหรับผู้หญิง อายุตั้งแต่ 19-37 ปี รายได้ 4-6 แสนบาท ทำให้สนใจและติดต่อไป แอดมินชื่อ “ปิ๊ก” บอกว่าเป็นงานอุ้มบุญที่ถูกกฎหมายในประเทศจอร์เจีย มีสามีภรรยาต่างชาติที่มีลูกยากจะเซ็นสัญญาให้เมื่อไปถึง แถมกินอยู่สบายและพร้อมออกค่าใช้จ่ายในการทำพาสปอร์ต พร้อมค่าเดินทางทั้งหมด

จนกระทั่ง ปิ๊กให้ไปทำพาสปอร์ต และนัดเดินทางวันที่ 30 ส.ค.67 ไปขึ้นเครื่องสนามบินอู่ตะเภา โดยมีปิ๊กเป็นคนพาไปและมีหญิงชาวไทยอีกประมาณ 10 คน แต่ละคนไม่รู้จักกัน จากนั้นแอดมินปิ๊กได้ให้เงินติดตัวคนละ 500 ดอลลาร์ บอกว่าเอาไว้โชว์เวลาตำรวจ ตม.ตรวจ เพื่อตบตาว่าเป็นนักท่องเที่ยว ก่อนจะนั่งเครื่องเดินทางไปลงที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเปลี่ยนเครื่องไปลงประเทศอาร์มีเนีย และนอนค้างที่นี้ 4 วัน ก่อนเดินทางต่อด้วยรถไฟเข้าประเทศจอร์เจียในเวลา 2 ทุ่ม ใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมง ถึงจอร์เจียในช่วงเช้าวันถัดไป ซึ่งในระหว่างเดินทาง ไม่มีการซัพพอตเรื่องอาหารการกินให้อดๆอยากๆ กินน้ำก๊อกไปพลาง ทำเป็นเหมือนจะเซฟค่าใช้จ่าย

เมื่อมาถึง ปิ๊กได้ส่งไม้ต่อให้กับชาวและหญิงชาวจีนดูแล พร้อมกับยึดพาสปอร์ต โทรศัพท์มือถือ และเงิน 200 ดอลลาร์ ที่ให้ไว้ในตอนแรก 500 ดอลลาร์ จากทุกคนคืนก่อนจากไป ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร ต่อมาชายหญิงชาวจีนพาเข้าที่บ้านพักแห่งหนึ่งใกล้กับโบสถ์สมินดา Tsminda church พบ สาวไทยกว่า 20 คน ตนเห็นสภาพบางคนทรุดโทรมและไม่ค่อยสบาย อีกทั้งยังไม่ได้เจอพ่อแม่เด็กจึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้หญิงคนไทยเหล่านี้มาอยู่ในบ้านพักที่แห่งนี้ทำไม

ต่อมาชายหญิงชาวจีนคู่นี้ ได้พาเพื่อนคนอื่นไปตรวจร่างกายที่คลินิกแห่งหนึ่งในประเทศจอร์เจีย แต่แยกตนไว้ก่อนรอเวลาจนกว่าประจำเดือนจะมา เมื่อตนนับวันใกล้วันที่ประจำเดือนจะมาแล้ว ชายหญิงชาวจีนก็ได้ใช้ Translate แปลภาษา บอกกับตนว่าจะต้องฉีดยาให้ครบ 3 เข็ม ก่อนจะพาไปที่คลินิกพร้อมกับฉีดยาให้ 1 เข็ม แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกว่าเป็นยาอะไร จนกระทั่งตนได้กลับมายังบ้านพัก ก็เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย กินอาหารไม่ได้และมีไข้ไม่สบาย โดยที่คนเหล่านี้ไม่สนใจอะไร หลังจากฉีดยาครบ 7 วัน ชายหญิงชาวจีนก็จะพาตนไปฉีดยาใหม่อีกครั้งโดยเป็นยาตัวเดิม แล้วตนก็มีอาการเหมือนกับเข็มแรกที่ฉีด ตนสงสัยจึงถามเพื่อนๆว่ามันเป็นยาอะไรที่หมอฉีดให้ โดยมาทราบภายหลังว่าเป็นยากระตุ้นการตกไข่ เพื่อที่ว่าคนเหล่านี้จะได้เก็บไข่นำไปทำอะไรนั้นตนไม่ทราบ โดยใช้อุปกรณ์อย่างหนึ่งรอดผ่านทางช่องคลอดของผู้หญิงแล้วทำการดูด นางเอเผยว่า ตนนั้นยังไม่เคยถูกดูดไข่ออก เพราะยังฉีดยาไม่ครบ 3 เข็ม แต่จากการสอบถามเพื่อนๆที่เคยถูกกระทำทราบว่า หลังจากถูกดูดใครออกจะมีอาการหน่วงๆและปวดท้องบริเวณท้องน้อย

ตนเริ่มวิตกกังวล กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไทย ในที่แห่งนี้ ก็เลยเริ่มอยากที่จะไม่ทำงานแบบนี้แล้ว และเข้าใจว่าถูกหลอกให้มาขายไข่ของตัวเองซึ่งมันเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ไม่ใช่การอุ้มบุญอย่างที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก

ต่อมา ชายหญิงชาวจีนได้พาตนย้ายไปที่พักอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ในระหว่างที่รอจะฉีดเข็มที่ 3 มีผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง ชื่อ นางบี (สงวนชื่อจริงนามสกุล) ได้นำเงินมาประกันตัวเองออกไป ตนจึงร้องขอให้ผู้เสียหายคนดังกล่าวกลับไปขอความช่วยเหลือให้พวกตนออกไปด้วย เนื่องจากไม่มีเงินมาไถ่ตัวออกไป จนกระทั่งนางบีเดินทางกลับไทยแล้วเดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลบุกเข้ามาช่วยเหลือพวกตนไว้ได้

นางเอ ยังเล่าอีกว่า ในช่วงนอนรอเวลาอยู่ที่บ้านพักเป็นช่วงที่ทรมานที่สุด เพราะต้องแย่งทำอาหารกินกับคนอื่น ใครช้าก็อดกิน เนื่องจากบ้านพักแต่ละที่ จะมีเจ้าหน้าที่ชาวจีนเหล่านี้คอยนำของสดมาเติมให้ตามบ้านพักต่างๆ เพื่อที่จะให้เหยื่อทุกคนทำอาหารกินกันเอง โดยส่วนมากจะเป็นไข่ไก่และเนื้อหมู แต่ปริมาณมีไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวันของหญิงชาวไทยที่ตนอยู่ด้วยในบ้าน 20 ชีวิต ซึ่งจะต้องทำข้อตกลงกัน เพื่อทำอาหารและแบ่งกินกันคนละนิดคนละน้อย ให้มีชีวิตอยู่รอดจนกว่าเจ้าหน้าที่จะนำอาหารมาเติมอีกครั้ง โดยการเติมอาหารแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน

 

ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ทำการเตรียมร่างหนังสือยื่นให้กับทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องขอให้ช่วยเหลือหญิงชาวไทยที่ยังอยู่ในประเทศจอร์เจีย เนื่องจากการกระทำของขบวนการแก๊งจีนเทาที่หลอกไปอุ้มบุญเป็นการทรมานหญิงชาวไทย ที่ตกเป็นเหยื่อกว่า 100 ชีวิต ซึ่งตอนนี้ทางมูลนิธิทำได้แค่เพียงช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้เพียงแค่ 4 คน เนื่องจากการอุ้มบุญในประเทศจอร์เจียอาจเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การไปบุกช่วยหญิงชาวไทยในครั้งที่ผ่านมาไม่สามารถช่วยออกมาหมดได้ จึงจำเป็นต้องพึ่งหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการช่วยเหลือทีมชาวไทยออกมาให้หมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.บุกช่วย นศ.เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกลวงเงิน 1.5 ล้าน ซ้ำโดนขู่ทำร้ายร่างกาย
จับแล้ว "นช.แหกคุกนนท์" หนีกบดานชลบุรี
ศาลขอนแก่น สั่งจำคุก "ไผ่ จตุภัทร์" 2 ปี 8 เดือน ผิดม.116 คดีร่วมม็อบ ปราศรัยพาดพิงเบื้องสูง
“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” โพสต์ยินดี อวยพร สถานีข่าว TOP NEWS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5
ชมพิธีวิ่งคบเพลิง ‘เอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว’จีนที่ฮาร์บิน
เปิดคำสั่งศาลรธน.ให้ "ส.ว.สมชาย เล่งหลัก" ขยายเวลาชี้แจงครั้งสุดท้าย ปมถูกกกต. ถอนสิทธิลงเลือกตั้ง 10 ปี
"สาวไทย" เล่านาทีชีวิต ถูกแก๊งจีนเทา จับฉีดยากระตุ้น หลอกบังคับขาย "ไข่" สืบพันธุ์ ผสมเทียม
"กฟภ." แจงเวทีกมธ.ตัดไฟ "เมียนมา" พลการไม่ได้ หลักฐานสมช.ใช้ต่อสู้คดีได้ ถ้าถูกฟ้อง
ไปรษณีย์สหรัฐหยุดรับพัสดุจีนและฮ่องกง
“กูรู” เห็นกับตา! ทหารพม่าตั้งฐานคุมเชิงวัดเชียงใหม่ จ้อง นทท.ไทยตาเขม็ง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น