ตร.คุมตัวชายบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ทำแผนก่อนฝากขัง รับสารภาพหมดเปลือก

ตร.คุมตัวชายบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ทำแผนก่อนฝากขัง รับสารภาพหมดเปลือก

ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทองคำ หนัก 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในร้านขายทอง ของห้างสรรพสินค้า ย่านลำลูกกา และจุดทิ้งรถย่านธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หลังจากคุมตัวได้เมื่อวานที่ผ่านมา ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านบางแค พร้อมของกลางเป็นทองรูปพรรณ จำนวน 58 บาท เงินสด 107,320 บาท ตั๋วรับจำนำ เสื้อผ้า และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พลตำรวจโท อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับพลตำรวจโทสุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลจับกุม ผู้ต้องหา

 

 

 

 

 

 

 

พลตำรวจโทสุรพล เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาใช้ยานพาหนะเดินทางมาทำงานในย่านจังหวัดปทุมธานีเนื่องจากมีเพื่อนอยู่ในย่านที่เกิดเหตุ โดยก่อนจะลงมือได้มีการเดินทางมาสำรวจจุดที่ตั้งของร้านขายทอง จำนวน พนักงานรักษาความปลอดภัยและเส้นทางการหลบหนี โดยได้มีการนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้งลงคลองย่านธัญบุรี และแฝงตัวตามชุมชนต่าง ๆ ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด รวมถึงตัดผม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตำรวจติดตามตัว

 

 

 

ซึ่งระหว่างหลบหนีได้มีการนำทองที่มีอยู่บางส่วนไปจำนำ หลอมเป็นทองก้อน  แบ่งให้เพื่อนอีกสองคนและส่งผ่านพัสดุไปให้กับภรรยาที่อยู่ในจังหวัดสงขลา เพื่อไม่ให้มีของกลางติดตัวจำนวนมาก ซึ่งทางตัวผู้ต้องหาได้ติดต่อไปยังภรรยาขอเงินจำนวน 10,000 บาท เพื่อมาซื้ออุปกรณ์ในการหลอมทอง และเสื้อผ้าในการแปลงโฉม

ขณะเดียวกันผู้ต้องหายังให้การว่าตัวเองลงมือก่อเหตุเนื่องจากต้องการใช้เงินเป็นจำนวนมาก และสาเหตุที่เดินทางมาก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเพราะตั้งใจเดินทางมาเนื่องจาก เกรงว่าหากก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดสงขลาซึ่งเป็นบ้านเกิดจะมีคนจำใจใบหน้า และตำรวจติดตามตัวได้ง่าย นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การว่าเคยเดินทางไปเล่นการพนันที่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา อีกทั้งยังระบุว่า หลังก่อเหตุจะเดินทางข้ามไป ที่ประเทศเพื่อนบ้านอีกครั้ง จึงเชื่อได้ว่าอาจจะ นำเงินที่ก่อเหตุมาได้ไปใช้สำหรับเล่นพนัน โดยหลังจากทำแผน ประกอบคำรับสารภาพแล้วเสร็จจะคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลธัญบุรีภายในวันนี้

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทรัมป์เอาคืนไบเดน เพิกถอนสิทธิเข้าถึงข้อมูลจัดชั้นความลับ
นาทีบินเล็กตกถนนในบราซิล-พบซากเครื่องบินที่อะแลสกา
นทท.ดับ 2 ในศรีลังกาต้องสงสัยพิษยาฆ่าแมลง
"รัสเซีย" ยึดฐานที่มั่นยูเครนเมืองโทเรตสค์ 100% หลังรบเดือดนาน 5 เดือน
ตร.คุมตัวชายบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ทำแผนก่อนฝากขัง รับสารภาพหมดเปลือก
รัฐบาล เตือน "ปชช." ใบสั่งจราจรรูปแบบเก่ายังมีผลตามกม. ต้องเสียค่าปรับตามกำหนด
จนท.รวบทั้งรถทั้งคน หลังพบขนน้ำมันเต็มท้ายกระบะ จ่อส่งข้ามแดนพบพระ ขายฝั่งเมียวดีกลางดึก
"ศศิกานต์" เตือนภัย มิจฉาชีพระบาด แนะลูกค้าออมสิน ใช้แอป “MyMo Secure Plus” ป้องกันถูกดูดเงินจากบัญชี
"ธรรมนัส"ฮึ่ม ก๊วนเกรียนทำเพจปลอม หลอกล่อเหยื่อ เตือนระวังอย่าหลงเชื่อ ลุยแจ้งเอาผิด ฝาก DE ปราบให้สิ้น
"คาเมเนอี" ฮึ่ม กร้าวแรง "ทรัมป์"อย่าคิดข่มขู่"อิหร่าน"ลั่นไม่ใช่ทางออกที่ฉลาด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น