วันนี้ (8 ก.พ. 68) รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต กล่าวถึง กรณี DSI รับมอบมือถือของ น.ส.ภัทรธิดา หรือ นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นิดา ที่นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือ บังแจ็ค เก็บไว้ที่สหรัฐอเมริกามานั้น จะเป็นกุญแจสำคัญในการไขคดีนี้ เพราะถือเป็น 1 จิ๊กซอว์ที่สำคัญ สำหรับการคลี่คลายคดี และไขข้อสงสัยในหลายประเด็นที่ถูกตั้งคำถามไว้ก่อนหน้านี้ ว่าแตงโมเสียชีวิตจากสาเหตุใดแน่ ซึ่งก็ต้องดูข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือว่า มีข้อมูลอะไรบ้าง ประการสำคัญต้องยืนยันได้ว่า มือถือดังกล่าวนี้เป็นมือถือของแตงโมจริง
สำหรับภาพและคลิปในมือถือของแตงโมที่ DSI รับมานั้น จะสามารถเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน จะถูกแต่งเติมหรือไม่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ บอกว่า ตามปกติโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone เวลาบันทึกภาพและคลิปจะสามารถตรวจสอบ วันและเวลา และสถานที่ของการถ่ายได้เมื่อมีการแชร์โลเคชั่น โดยทางเทคนิคตนเชื่อว่า สามารถทำได้ หรือแม้กระทั่งการลบภาพและคลิปออกจากโทรศัพท์มือถือไปแล้ว ก็สามารถที่จะกู้คืนได้ ซึ่งมีประเด็นสำคัญตรงที่ ในช่วงก่อนเกิดเหตุหรือหลังเกิดเหตุ ประเด็นนี้อาจจะสามารถไขข้อปริศนาหลายส่วนได้ว่า แตงโมถูกใครฆาตกรรม หรือมีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมบ้าง ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่มีคำถามว่า ทำไมถึงมีการเปิดเป็นโหมดเครื่องบิน ช่วงก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ และการได้โทรศัพท์มาก็จะยิ่งสามารถตรวจสอบได้ ก็จะสอดคล้องกันกับข้อมูลการบันทึกหลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือของแตงโมในช่วงก่อนเกิดเหตุ รวมทั้งข้อมูลทางการใช้โทรศัพท์ของคนบนเรือทั้งหมดด้วย จึงมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเป็นพยานหลักฐานทางเทคโนโลยีนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อมีการพิสูจน์แล้วเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ณ.วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งศาลยอมรับและรับฟังมีน้ำหนักในพยานหลักฐานทางเทคโนโลยีมากกว่าคำพูดหรือคำให้การของคนบนเรือ ที่อาจจะพูดกลับไปกลับมาก็ได้