“นายกฯ” เผย จีนชื่นชมไทย เด็ดขาด ตัดไฟเมียนมา พร้อมหนุนช่วยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในการหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ถึงเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่างไรบ้าง ว่า ดีมาก ซึ่งทางจีนก็สนับสนุน ในส่วนของประธานาธิบดีก็ชื่นชมในเรื่องนี้ เห็นว่าสิ่งประเทศไทยทำ เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม
เมื่อถามว่า แล้วทางการจีนจะสนับสนุนในเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างไรบ้าง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ในเรื่องนี้ต้องทำงานร่วมกัน ซึ่งในส่วนของทางการจีนก็จะมีความเข้มข้นในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบไปทั่วโลก โดยทางการไทยได้ส่งรายละเอียดให้คณะทำงานไทยและจีน ที่ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ หากมีรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมก็ให้ส่งมายังคณะทำงานได้ ทั้งนี้หากมีโอกาสได้เจอกับประธานาธิบดีจีนและนายกรัฐมนตรีจีนอีก ก็จะมีการคุยความคืบหน้าในเรื่องนี้อีกตามกรอบที่ตกลงกันไว้
เมื่อถามว่า ภายหลังจากการตัดไฟและสัญญาณอินเทอร์เน็ตแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะมีการดำเนินการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เราต้องดูเรื่องตัวเลขว่าผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้าง ลดได้แค่ไหน ประชาชนมีการตอบรับอย่างไร เพราะการทำสิ่งเหล่านี้คือการรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและป้องกันภัยอันตรายจากเรื่องพวกนี้
เมื่อถามว่าขณะนี้ประชาชนชาวเมืองเมียวดีประเทศเมียนมา ออกมาประท้วงประเทศไทยในการตัดไฟ จะรับมืออย่างไร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “อย่างที่บอกเราต้องดูแลคนของเราเพราะ ดิฉันเป็นนายกฯของประเทศไทย ก็ต้องดูแลประเทศไทยก่อน คิดว่าทางนั้นเขาก็ต้องดูแลคนในประเทศของเขาเช่นกัน ทุกประเทศต้องดูแลคนของตัวเอง ”
ส่วนทางเมียนมาออกมาต่อต้านการซื้อสิ้นค้าจากประเทศไทยนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลกับรัฐบาลจะพูดคุยกันในรายละเอียด
เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่บริเวณ ตึก 25 ชั้นที่ ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และจะมีการถอนสัญชาติไทยนั้น
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ในรายละเอียดสามารถทำได้อีกเยอะ สิ่งที่นายทักษิณพูดก็เป็นข้อแนะนำ ทั้งนี้ตนมีภารกิจจะไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็จะนำเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปพูดคุยด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น