CNN และ AFP รายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ระหว่างบนอยู่เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน เมื่อวานนี้ (อาทิตย์ที่ 9 กพ.) ว่าสหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมจากทุกประเทศที่ส่งมาขายยังสหรัฐในอัตรา 25% โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการในวันนี้ (จันทร์ที่ 10 กพ.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อแคนาดาหนักที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ส่งออกอะลูมีเนียมและเหล็กมายังสหรัฐรายใหญ่ที่สุด ส่วนเม็กซิโกก็เป็นผู้ส่งออกเหล็กรายใหญ่มายังสหรัฐพอๆกับแคนาดา
รัฐบาลทรัมป์ 1 เคยประกาศเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% จากแคนาดา, เม็กซิโกและอียูมาแล้ว แต่ได้ยกเลิกให้กับแคนาดาและเม็กซิโกหลังบังคับใช้มาได้ 1 ปี
นอกจากนี้ทรัมป์ยังประกาศจะตั้งกำแพงภาษีทุกประเทศที่เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเพื่อเป็นตอบโต้ โดยจะมีการประกาศภายในสัปดาห์นี้
ด้านนายกรัฐมนตรีแอนโทนี่ อัลบาเนสซี ของออสเตรเลียแถลงต่อรัฐสภาออสเตรเลียว่าเขามีแผนจะเดินทางไปเยือนทำเนียบขาวเพื่อเจรจาขอให้ทรัมป์ยกเว้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมเหมือนที่เคยทำในสมัยรัฐบาลทรัมป์ 1
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เตือนนายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นระหว่างการพบหารือที่ทำเนียบขาวว่าญี่ปุ่นอาจเผชิญกับกำแพงภาษีเช่นกันถ้าไม่รีบปรับลดดุลย์การค้ากับสหรัฐลงให้เหลือศูนย์
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้า 25% จากแคนาดาและเม็กซิโกแต่เลื่อนออกไป 1 เดือน และสั่งเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 10% โดยมีผลบังคับใช้แล้ว ทำให้จีนตอบโต้ด้วยการสั่งเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐเช่นกัน นอกจากนี้ทรัมป์ยังขู่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอียู ซึ่งประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสประกาศจะตอบโต้แน่นอน พร้อมแนะให้ไปเน้นเก็บภาษีจากจีนไม่ใช่จากอียู