ตร.ไซเบอร์ “ล่าปิดเกาะภูเก็ต” จับขบวนการไต้หวัน ฟอกเงินเว็บพนันฯ พบหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท

ตร.ไซเบอร์ "ล่าปิดเกาะภูเก็ต" จับขบวนการไต้หวัน ฟอกเงินเว็บพนันฯ พบหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท

Top news รายงาน พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลปฏิบัติการ “ล่าปิดเกาะ ทลายทุนเทาข้ามชาติ” นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านหรู ถนนเทพกษัตรี อำเภอเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต จับกุมชาวไต้หวันได้ 3 คน และคนไทยอีก 3 คน ซึ่งเป็นทีมดูแลระบบการเงินและปกปิดเส้นทางการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์หลายเว็บไซต์ พร้อมยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 119 เครื่อง , คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง , สมุดบัญชีธนาคาร 19 เล่ม , ยาอี 6 เม็ด และคีตามีน 74.5 กรัม

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา จะเข้ามาในไทยและเช่าบ้านหรู หรือคอนโดมิเนียมราคาแพงเป็นฐานบัญชาการ โดยจะย้ายสถานที่อยู่ไปเรื่อยๆ จากนั้นก็จะสร้างระบบการเงินเฉพาะขึ้นมา และให้นักพนันเติมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นที่สร้างขึ้นมา และระบบจะโอนเงินไปยังบัญชีที่ตั้งไว้อัตโนมัติ โดยได้ว่าจ้างคนไทยให้เปิดบัญชีม้าและทำหน้าที่สแกนใบหน้า มีขบวนการทั้งที่อยู่ในไทยและในต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เจ้าของเว็บพนันไม่ต้องจัดหาบัญชีม้าเอง และยังทำให้เว็บพนันสามารถโอนเงินออกไปได้ทันทีครั้งละหลาย 10 บัญชี แตกต่างจากระบบบัญชีม้ารูปแบบเดิมที่เว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่จะโอนต่อๆ กันทีละบัญชีเป็นทอดๆ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาจะได้ส่วนแบ่งจากยอดเงินที่โอนผ่านระบบเข้ามา ซึ่งจากการตรวจสอบพบมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีที่ยึดได้กว่า 20 ล้านบาท

 

 

 

 

 

 

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวไต้หวัน ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชาวไต้หวันให้เดินทางมาทำงานดูแลระบบในประเทศไทย โดยได้เงินเดือนเดือนละ 50,000 บาท สลับสับเปลี่ยนกันทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลให้ระบบทำงานตลอดเวลา และคอยตรวจสอบยอดเงินให้ตรงกับสลิปที่นักพนันโอนเงินเข้ามา หากโปรแกรมแจ้งเตือนให้สแกนหน้ายืนยันตัวตนบัญชีธนาคาร ก็จะให้คนไทยที่เป็นบัญชีม้ามาสแกนหน้าให้ โดยคนไทยได้รับค่าจ้างเปิดบัญชีคู่กับลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ บัญชีละ 2,500 บาท โดยจะให้เปิดคนละ 4 บัญชี และได้เงินเดือนในการสแกนหน้าอีกเดือนละ 20,000 บาท

 

 

เบื้องต้นตำรวจแจ้งหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต , สมคบกันฟอกเงิน , เป็นธุระจัดหาโฆษณาให้มีการซื้อขายบัญชีเงินฝาก เลขหมายโทรศัพท์, เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากหรือหมายเลขโทรศัพท์ โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด และ มียาเสพติดให้โทษประเภทประเภท 1 และ 2 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

 

 

อย่างไรก็ตามขบวนการนี้ ตำรวจไซเบอร์ขอศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหานี้ไว้ จำนวน 29 คน ยังเหลืออีก 26 คนที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ซึ่งก็มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดรายละเอียด กกต.สั่งลงคะแนน "นายกอบจ." ใหม่ 4 จังหวัด ไม่ส่งผลต่อผู้ชนะ
"เอกนัฏ" สั่ง "ทีมสุดซอย" ทลายโรงงานใน จ.สมุทรสาคร ลักลอบหลอมชิ้นส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์-ผลิตปลั๊กไฟ พบเชื่อมโยงโรงงานเถื่อนปราจีนฯ
กกต.สั่งลงคะแนนใหม่เลือกตั้ง อบจ. 22 หน่วย 11 จังหวัด 23 ก.พ.นี้
"สาวไต้หวัน" พร้อมบินมาไทย ให้การเพิ่มเติม ปมถูก "ส.ส.ปูอัด" ละเมิด ขืนใจ
“บิ๊กต่าย” สั่งเด้ง “ผู้การต๊ะ” ช่วยราชการศปก.ตร. โยงปมบ่อนกาสิโนเมืองเมียวดี หากผิดจริง เจอฟันโทษหนัก
ผบ.ตร. สั่งเด้ง "ผู้การฯตาก" บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยมิจฉาชีพใช้ช่องทางข้ามแดน
“วัน อยู่บำรุง ” ไลฟ์เดือด! เปิดแชทจัดเต็ม ยันไม่ใช่นักการเมืองขอดูภาพลับ “แตงโม”
"พรรคกล้าธรรม" เปิดบ้านครั้งแรก ประชุม กก.บห.-สส. ประกาศปักธงเพิ่มสมาชิก
การเคหะแห่งชาติ ครบรอบ 52 ปี ก้าวสู่ปีที่ 53 มุ่งเน้น "สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี"
เปิดนาที ตร.วิสามัญคนร้ายแก๊งลักจยย.ดับ 1 ราย เหิมชักปืนขู่เตรียมยิงเปิดทาง อีกรายเร่งล่าตัว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น