‘แม่พีม’ ยันไม่ประกันตัว ไร้กำลังทรัพย์ ลั่นอยากให้เรียนรู้ชีวิตเอง ด้านตร.คุมตัว ‘พีม-โอชิ’ แก๊ง LGBTQ สาดน้ำซุป ฝากขัง

แม่ ‘พีม’ ยันไม่ประกันตัว เผยไม่มีกำลังทรัพย์ อยากให้ลูกเรียนรู้ผลของการกระทำ ที่ผ่านมาลูกไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน ยอมรับบกพร่องในการอบรมลูกช่วงห่างกัน

‘แม่พีม’ ยันไม่ประกันตัว ไร้กำลังทรัพย์ ลั่นอยากให้เรียนรู้ชีวิตเอง ด้านตร.คุมตัว ‘พีม-โอชิ’ แก๊ง LGBTQ สาดน้ำซุป ฝากขัง – Top News รายงาน

LGBTQ สาดน้ำร้อน

 

ความคืบหน้ากรณีผู้ต้องหากลุ่ม LGBTQ สาดน้ำซุป ทั้ง 8 ราย คือ นายรษิภา หรือพีม , นายชคัทพล หรือโอชิ , นายนพคุณ หรือจั๊ก , นายดลลธี หรือพอล , นางสาวอุ้มบุญ , นางสาวกันยาพัชร หรือพิมเจล , นางสาววรัญญา หรือแบม  และนางสาวภราดร โดยถูกควบคุมตัวที่ สภ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี   ขณะที่พีม กับโอชิ ซึ่งในวันนี้จะครบกำหนดส่งตัวฝากขังศาลธัญบุรี หลังจากเลื่อนมาจากเมื่อวานนี้ เบื้องต้นทั้ง 2 ราย ถูกแจ้งข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย” ขณะที่อีก 6 ราย ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์”

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา (11 ก.พ.68) แม่ของพีมเดินทางมาเยี่ยม พร้อมนำข้าวเหนียวหมูมาฝากลูก ขณะเดียวกันเพื่อนของพีมก็นำขนมมาเยี่ยมด้วยเช่นกัน ทั้งหมดได้พูดคุยกับพีมผ่านห้องเยี่ยมผู้ต้องหา แม่พูดกับพีมว่า “โทรศัพท์ที่พีมให้ไปติดต่อ เขายึดเป็นหลักฐานนะ” และบอกว่า วันนี้แม่ซื้อข้าวเหนียวหมูกับคะน้ามาให้ เดี๋ยวแม่ไปรอที่ศาลนะ พร้อมถามว่า ต้องส่งตัวกี่โมง เดี๋ยวไปเจอกันที่โน่นแล้วกัน และมีถามเพิ่มเติมว่า เอาแปรงสีฟันเหรอ เอาไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ

แม่ของพีม อายุ 50 ปี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่า จะไม่ขอประกันตัวลูก ให้เป็นไปตามกระบวนการ โดยวันนี้มีข้าวเหนียวหมูมาเยี่ยมน้อง ทั้งนี้ การที่เราไม่ยื่นประกันตัว เพราะอยากให้เขาได้เจอประสบการณ์ด้วยตัวของเขาเอง อยากให้เขาได้เรียนรู้ชีวิต แต่ถ้าอยากจะประกันตัว ครอบครัวตนเองก็ทำไม่ได้อยู่ดี เพราะไม่ได้มีกำลังทรัพย์อะไรมากมาย ซึ่งตนเองยอมรับว่าที่ลูกเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะแม่ที่ขาดการอบรมเขา เนื่องจากเราอยู่ห่างกัน ลูกใช้ชีวิตอยู่ที่มหาวิทยาลัย เวลาลูกออกไปทำอะไรกลางคืนพ่อแม่ก็ไม่ทราบ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยอะไรกับพีมมากมาย แค่ให้เขาอดทนใช้ชีวิตต่อไปที่เหลืออยู่ในนั้นให้ได้

 

แม่พีม

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พร้อมฝากถึงพ่อแม่ครอบครัวอื่น ตนเองมองว่ามันพูดยาก ครอบครัวทุกคนสอนให้ลูกเป็นคนดีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเด็กด้วย ว่าเวลาห่างจากผู้ปกครองไป ลับหลังเขาไปทำอะไรเราก็ไม่รู้ ยืนยันว่าไม่เคยรับรู้เรื่องพวกนี้ของพีมมาก่อน ตลอดเวลาที่พีมอยู่มหาวิทยาลัย มักจะสอนลูกตลอดว่าคบเพื่อนต้องให้ดูดีๆ แต่ลูกก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้มาให้ตนเองรับทราบ ที่ผ่านมาผลการเรียนก็ดี

แม้ว่าครอบครัวของตนเองจะไม่มีกำลังทรัพย์มาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพค่าเทอมแพง แม่ช่วยกันหาเงินกับพ่อ เทอมไหนไม่มีเงินก็กู้บริษัทแล้วผ่อนเอา เพราะอยากให้ลูกมีสังคมที่ดี เติมเต็มในสิ่งที่ตนเองไม่เคยมี เพราะตนเองไม่มีการศึกษา เห็นลูกอยากเรียนตรงนี้ก็สนับสนุน เพราะเห็นเขาสนใจการเรียน จึงพยายามผลักดันในสิ่งที่เขาอยากเรียน “เพิ่งรู้เมื่อวานว่าพีมเรียนจบไปแล้ว และไปลงเรียนใหม่ ซึ่งแม่ไม่รู้อะไรเลยว่าลงเรียนใหม่เพื่ออะไร เท่าที่รู้คือ เขาบอกว่ามีปัญหาเรื่องฝึกงาน ยังเหลืออีกเทอมหนึ่ง ล่าสุด เมื่อเดือนที่แล้ว ก็เพิ่งโอนจ่ายค่าเทอมใหม่ไป เนื่องจากเขาไปลงทะเบียนเรียนแล้วเอาเอกสารมหาวิทยาลัยมาให้แม่เบิกค่าเทอม เพิ่งรู้รายละเอียดจริงๆ เมื่อวานหลังจากโทรคุยกับทางมหาวิทยาลัย”

 

 

นอกจากนี้ น้องนางฟ้าตัวกลม ซึ่งเป็นเพื่อนของพีม กล่าวว่า ตนเองรู้จักกับพีมตั้งแต่สมัยที่พีมแต่งหญิง ก่อนหน้านี้พีมเป็นคนเรียบร้อย ไม่เชื่อว่าจะก่อเหตุในลักษณะนี้ได้ หลังจากทราบข่าวก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก วันนี้ตนเอง และเพื่อนๆ เดินทางมาให้กำลังใจ ในฐานะเพื่อน คงต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครยอมรับได้ เพราะมันโหดร้าย และไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงต่อ จากนี้เชื่อว่า พีม คงได้รับบทเรียนราคาแพง อีกทั้งคงสำนึกได้ กับการกระทำที่ทำลงไป

 

ต่อมาในเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้คุมตัว นายรษิภา หรือ พีม และนายชคัทพล หรือ โอชิ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในความผิดฐาน “กรรโชกทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่น” ไปขออำนาจฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี รวมกับผู้ต้องหาในคดีอื่น แต่สุดท้ายก็ต้องนำตัว พีม และโอชิกลับมา เพราะว่าจะควบคุมตัว พีม และพวกทั้งหมด รวม 8 คน ไปฝากขังครั้งเดียวกันในเวลา 13.00 น.

ในระหว่างนี้ สื่อมวลชนได้พยายามสอบถามสอบถามผู้ต้องหา ว่าอยากจะขอโทษสังคมหรือไม่ หรือมีอะไรอยากฝากถึงผู้เสียหายหรือไม่ เจ้าตัวก้มหน้าก้มตา ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรทั้งสิ้น

ด้าน พันตำรวจเอก เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เกิดความสับสนเล็กน้อยของตำรวจที่มีหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง เพราะไม่ทราบว่าจะได้มีการแยกผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวออกมา เพื่อฝากขังพร้อมกันในเวลา 13.00 น. โดยทำคำร้องขอฝากขังนั้น ทางพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

 

นอกจากนี้ ทางผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง ยังเปิดเผยเพิ่มเติมในส่วนกรณีคลิปเสียงบังคับให้ผู้เสียหายวัดดวงดื่มเครื่องดื่มผสมไซยาไนด์ว่า พีมให้การว่าไม่ได้ทำจริง แต่เป็นการข่มขู่ผู้เสียหายให้กลัวเท่านั้น  ส่วนกรณีที่มีข่าวเรื่องทีมขายพอร์ตเค ซีเต้ และปาร์เต้ ที่เพื่อนร่วมหุ้นด้วยกัน ยอมรับว่า ร่วมกันลงทุนขายบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่ไม่ได้ขายพอร์ตเค และไม่ได้จ่ายส่วยให้ตำรวจ เพื่อขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กกต.สั่งลงคะแนนใหม่เลือกตั้ง อบจ. 22 หน่วย 11 จังหวัด 23 ก.พ.นี้
"สาวไต้หวัน" พร้อมบินมาไทย ให้การเพิ่มเติม ปมถูก "ส.ส.ปูอัด" ละเมิด ขืนใจ
“บิ๊กต่าย” สั่งเด้ง “ผู้การต๊ะ” ช่วยราชการศปก.ตร. โยงปมบ่อนกาสิโนเมืองเมียวดี หากผิดจริง เจอฟันโทษหนัก
ผบ.ตร. สั่งเด้ง "ผู้การฯตาก" บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยมิจฉาชีพใช้ช่องทางข้ามแดน
“วัน อยู่บำรุง ” ไลฟ์เดือด! เปิดแชทจัดเต็ม ยันไม่ใช่นักการเมืองขอดูภาพลับ “แตงโม”
"พรรคกล้าธรรม" เปิดบ้านครั้งแรก ประชุม กก.บห.-สส. ประกาศปักธงเพิ่มสมาชิก
การเคหะแห่งชาติ ครบรอบ 52 ปี ก้าวสู่ปีที่ 53 มุ่งเน้น "สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี"
เปิดนาที ตร.วิสามัญคนร้ายแก๊งลักจยย.ดับ 1 ราย เหิมชักปืนขู่เตรียมยิงเปิดทาง อีกรายเร่งล่าตัว
ฮามาสเมินคำขู่ “นรกแตก” และเส้นตายเสาร์นี้ของทรัมป์
ชาวเดนมาร์กลงชื่อขอซื้อรัฐแคลิฟอร์เนียตอบโต้ทรัมป์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น