The Times of Israel และรอยเตอร์สรายงานว่านายซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่อาวุโสฮามาสได้ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์สในวันนี้ (อังคารที่ 11 กพ.) ประกาศว่าคำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐที่เตือนฮามาสว่าจะเจอกับ “นรกแตก” หากไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมดจากกาซาภายในเวลาเที่ยงตรงเสาร์นี้ ว่าไม่มีความหมายและไม่มีคุณค่า รังแต่จะทำให้เรื่องซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก และว่าการเคารพในข้อตกลงหยุดยิงเป็นหนทางเดียวที่จะนำตัวประกันกลับบ้าน ซูห์รียังกล่าวด้วยว่า “ทรัมป์ต้องจำไว้ด้วยว่า การที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเดินหน้าต่อได้นั้น จะต้องได้การปฏิบัติจากทั้งสองฝ่าย
เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 10 กพ.) ทรัมป์ออกมาประกาศกร้าวจะให้อิสราเอลยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงกับฮามาส และให้กองทัพอิสราเอลกลับมาเปิดปฏิบัติการโจมตีกาซาอีกครั้ง โดยขีดเส้นตายภายในเวลาเที่ยงตรงเสาร์นี้ หลังจากฮามาสยกเลิกการปล่อยตัวประกันครั้งต่อไปในวันเสาร์ที่จะถึงนี้โดยไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลว่าอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการชลอความช่วยเหลือในกาซาและถ่วงเวลาชาวปาเลสไตน์ที่พยายามเดินทางกลับภูมิลำเนาในกาซาเหนือ ทั้งนี้ฮามาสปล่อยตัวประกันภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกมาแล้ว 16 คน แต่ยังเหลืออีก 73 คน
ทรัมป์บอกกับนักข่าวว่าเขาจะพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูในเรื่องนี้ และยอมรับว่าอิสราเอลอาจไม่เห็นด้วยและอาจต้องการให้ยกเลิกเส้นตายเสาร์เที่ยงนี้ แต่ทรัมป์ยืนยันว่าตัวประกันอาจทนรอไม่ไหวและเสียชีวิตหากไม่ได้รับการปล่อยตัวภายในวันสองวันนี้ ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่าเขาอาจจะระงับความช่วยเหลืออิยิปต์และจอร์แดนหากปฏิเสธไม่ยอมรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์จากกาซา และว่าเขาจะพบหารือกับกษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดนที่ทำเนียบขาวในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ทั้งอิยิปต์และจอร์แดนเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงกับอิสราเอล และพึ่งพาความช่วยเหลือด้านอาวุธและเศรษฐกิจจากสหรัฐ