“ภูมิธรรม” นำผบ.เหล่าทัพ รายงานนายกฯ ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประสบผลสำเร็จ

“ภูมิธรรม” นำผบ.เหล่าทัพ รายงานนายกฯ ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประสบผลสำเร็จ

Top news รายงาน วันที่ 14 ก.พ. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานความมั่นคงเข้าหารือ ว่า ทุกเหล่าทัพได้มีการรายงานสถานการณ์ต่อหน้านายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะความคืบหน้าการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ภายหลังที่เปิดปฏิบัติการ ซีลแนวชายแดน 51 อำเภอ

 

 

ถือว่าปฏิบัติการที่ดำเนินการในช่วงต้นประสบความสำเร็จ การกดดันในครั้งนี้ทำให้มีการเคลื่อนไหว ปิดสถานบันเทิง ที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่แน่ชัดว่าไทยต้องการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ให้ออกจากพื้นที่ ต้องมีการตรวจสอบคนที่ขอความช่วยเหลือ เมื่อเคลียร์ปัญหานี้แล้วก็ต้องหาช่องทางดำเนินการต่อไป ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่อง และมีการสำรวจกลุ่มคนที่เดินทางเข้าไปทำงาน ซึ่งบางส่วนต้องแยกแยะให้ชัดเจนหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ก็จะส่งตัวให้กับสถานทูตมารับ ส่วนประเทศไหนที่มีคนจำนวนมากก็จะเช่าเหมาลำเครื่องบินมารับ ยืนยันว่าไทยจะไม่ยินยอมให้เป็นศูนย์อพยพ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้วก็นำข้อมูลนี้ไปดำเนินการ เพื่อให้ได้มาตรฐานและแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด และข้อมูลทั้งหมดให้บูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อที่จะได้มีข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งเวลานี้ได้นำทุกเหล่าทัพและส่วนที่เกี่ยวข้อง มาทำงานเชื่อมกับฝ่ายการเมือง เพราะบางเรื่องฝ่ายปฏิบัติเมื่อมาถึงระดับที่ตัดสินใจแล้ว ก็อาจจะไม่รู้ว่าต้องตัดสินใจดำเนินการต่ออย่างไร ดังนั้นการพูดคุยวันนี้ ตนซึ่งประสานงานโดยตรง ก็สามารถตอบแทนฝ่ายการเมือง แทนนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งจะทำให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างบูรณาการ โดยรวมก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนความคืบหน้าการระงับโซลาร์เซลล์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แจ้งไปแล้วว่ากำลังดำเนินการอยู่ แต่หัวใจของการพูดคุยวันนี้ ถ้าสามารถซีลทั้งหมดได้ เราก็สามารถจัดการพื้นที่ชายแดนได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีความคืบหน้ามากขึ้น

ต่อข้อถามว่าในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีได้เสนออะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกฝ่ายที่ตั้งใจทำงาน และขอให้ทุกฝ่าย ทำงานประสานงานกันให้ได้มากขึ้น พร้อมย้ำว่าในที่ประชุมไม่ได้พูดถึงเรื่องของหมายจับพันเอกหม่องชิตตู ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ

เมื่อถามว่า กองกำลังต่างๆ ของชายแดนเมียนมาออกมาแสดงท่าทีเอาจริงเอาจังที่จะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะทำให้รัฐบาลไทย ใจอ่อนถึงขั้นลดระดับความเข้มข้นของมาตรการลงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องใจอ่อนหรือไม่ใจอ่อนแต่เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ตรงเป้าหมาย ปัญหาของเราคือ 1.ต้องเอาคอลเซ็นเตอร์ออกไปให้ได้ 2. จะไม่ให้ใช้พื้นที่ของเรา มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดและค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ถ้าเป้าหมายตรงนี้ได้เราก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องไปประท้วงหรือสร้างเงื่อนไขต่อ เพราะถือว่าเราได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายแล้ว ถ้าเป็นไปตามเป้าหมายเราก็มีสิทธิ์คืนให้กับเขาได้ แต่ถ้ายังแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็ต้องดำเนินการต่อ

 

 

ต่อข้อถามว่าเป้าหมายของรัฐบาล คือหมดสิ้น 100% หรือลดลงอย่างเห็นได้ชัด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่สามารถพูดได้ว่าหมดสิ้น 100% แต่ต้องให้เห็นชัด ให้ทุกคนรู้สึก เช่น เบอร์โทรศัพท์ลดลง คดีลดลง ต้องว่าไปตามสัดส่วนและต้องประเมินสถานการณ์ตลอด ซึ่งจะมีทีมที่ช่วยตัดสินใจและรวบรวมหลักฐานอยู่

ต่อข้อถามว่าในวงหารือมีการหารือถึงฐานแก๊งมิจฉาชีพ ที่อยู่ปอยเปต ประเทศกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า บางอย่างที่พูดคุยเขาไม่ให้บอก เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงาน ส่วนแนวคิดสร้างกำแพงแนวชายแดนที่ติดกับปอยเปตมีความเป็นไปได้แค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้ไปหาข้อสรุปถึงขั้นนั้น แต่คงต้องมีกระบวนการไปดูเพราะเป็นข้อเสนอของคนในพื้นที่ก็ไม่ปฏิเสธและนิ่งเฉย ต้องดูรายละเอียด เมื่อถามว่า ถ้ามีการก่อสร้างกำแพงระยะ 55 กิโลเมตร ประเมินไว้หรือไม่ว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะสร้างหรือไม่ ขอให้เราตัดสินใจก่อน เมื่อตัดสินใจแล้วก็จะมีกระบวนการตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจที่จะดำเนินการ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้ว จะมีการแจ้งความคืบหน้าเป็นระยะ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง ถ้าดูตั้งแต่เริ่มคิกออฟมาตรการ มีกระบวนการหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา และเห็นได้ว่าไม่ได้หยุดนิ่งเลย ทุกอย่างพุ่งเป้าไปที่การจัดการปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" โชว์ผลตอบแทนลงทุน "ประกันสังคม" ปี 67 พุ่ง 5.34 % ฝากอนุฯกองทุนสปส.ต้องเลิกความคิดเก่าๆ
"พายุฝน" ถล่มไทรโยค น้ำป่าไหลหลากกลางดึก ท่วมบ้านเรือน 75 หลัง สะพานขาด 2 แห่ง
เพื่อนสนิท "แตงโม" ทำบุญครบรอบ 3 ปี "แป๊ะซะ" ร่ำไห้หนัก เสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ไม่เคยเชื่อนั่งฉี่ท้ายเรือ
ซึงอู จบ 9 อันเดอร์คว้าแชมป์ เคพีจีเอ วินเธอร์ ที่ฟีนิกซ์ แบงค็อก
จับรายวัน "ตชด.235" จับกุม ผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยาบ้า 3.5 แสนเม็ด ขณะขนย้าย
 ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 สุดคึกคัก แฟนกอล์ฟแน่นสนาม 2 วัน 19,754 คน นักกอล์ฟไทยได้ลุ้นแชมป์
"รัฐบาล" เผยข่าวดี ยูเนสโกประกาศ "ภูพระบาท" เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของไทย
"ตร.สอบสวนกลาง" รวบหนุ่มโหด แทงคอเพื่อนบ้านเจ็บสาหัส หนีกบดานชลบุรีนาน 3 ปี
เช็กค่าฝุ่นพิษเช้านี้ "กทม." ส่วนใหญ่สีส้ม "บางนา" หนักสุด อีก 18 จังหวัด ทั่วไทยยังน่าห่วง
“สภาองค์การนายจ้างฯ“ หารือร่วมคณะผู้บริหารระดับสูง องค์การแรงงานระหว่างประเทศ มุ่ง ยกระดับนโยบายและแนวทางปฏิบัติด้านแรงงานของไทย-แรงงานข้ามชาติ สู่ มาตรฐานสากล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น