ผ่อนปรนนิดเดียวถึงขั้นพัง! เตือนรัฐอย่าละเลย มาตรการป้องกันโรคระบาดสัตว์

ผ่อนปรนนิดเดียวถึงขั้นพัง! เตือนรัฐอย่าละเลย มาตรการป้องกันโรคระบาดสัตว์

วิกฤตโรคระบาดสัตว์สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่หลายๆประเทศ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดนกและโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหารของประเทศอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็หนีไม่พ้นปัญหานี้ อย่างไข้หวัดนกที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว สถานการณ์นี้สร้างวิกฤตรุนแรงถึงขั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ราคาไข่ไก่พุ่งสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ล่าสุด พบว่าราคาไข่ไก่ในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งทะยานสูงถึงโหลละ 10.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 370 บาท) หรือฟองละ 30 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงเกินปกติอย่างมาก ผลกระทบไม่เพียงแค่ราคา แต่ยังรวมถึงการจำกัดการซื้อของซูเปอร์มาร์เก็ต บางแห่งกำหนดให้ลูกค้าซื้อไข่ได้เพียง 1 โหลต่อครั้ง เพื่อป้องกันการขาดแคลน และในบางรัฐอย่างเพนซิลวาเนียยังเกิดปัญหาการขโมยไข่ไก่ถึง 1 แสนฟองที่ยังหาผู้กระทำผิดไม่ได้ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของวิกฤตการณ์ที่กระทบทั้งค่าครองชีพและคุณภาพชีวิตประชาชน ซึ่งเป็นผลจากโรคระบาดสัตว์

ประเทศไทยเคยเผชิญความรุนแรงนี้เมื่อปี 2547 ที่ส่งผลกระทบอย่างมาก ทั้งด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต 12 ราย มีการทำลายสัตว์ปีกมากกว่า 60 ล้านตัว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องหยุดกิจการ เรียกว่าไทยต้องสูญเสียการส่งออกสัตว์ปีกมากกว่า 60,000 ล้านบาทและเกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย

บ้านเราสามารถพลิกวิกฤต เรียนรู้ และสร้างมาตรฐานการป้องกันโรคไข้หวัดนกที่มีประสิทธิภาพอย่าง ระบบคอมพาร์ทเม้นท์ ซึ่งได้รับการยอมรับจากนานาชาติ โดยไม่เคยเกิดไข้หวัดนกเป็นครั้งที่ 2 มานานกว่า 10 ปี รักษาความมั่นคงทางอาหารของชาติได้มาจนถึงทุกวันนี้ นับเป็นข้อดีที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการป้องกันโรค แต่ประเด็นสำคัญคือควรจะรักษามาตรการทั้งหมดให้เข้มข้น ห้ามอ่อนข้อละเลยแม้แต่ขั้นตอนเดียว

virus on poultry farms avian avian influenza

ข่าวที่น่าสนใจ

เช่นเดียวกับโรค ASF ในสุกร ช่วงปี 2564-2565 นั้น สถานการณ์ตกอยู่ในขั้นวิกฤต จำนวนหมูพ่อแม่พันธุ์ทั่วประเทศลดลงอย่างน่าใจหายจาก 1.2 ล้านตัวเหลือเพียงครึ่งเดียว ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อทั้งระบบอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ทำให้ซัพพลายเนื้อหมูขาดแคลนอย่างหนัก ราคาพุ่งสูงลิบถึงกิโลกรัมละ 200 บาท และเปิดช่องให้มิจฉาชีพลักลอบนำหมูเถื่อนเข้าประเทศ สร้างความเสียหายต่อระบบการผลิตและระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อเนื่องยาวนาน

ASF เกิดขึ้นมากว่า 100 ปีในโลก จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียารักษาโรค นับเป็นโรคร้ายแรงที่คนเลี้ยงหมูทั่วโลกหวาดกลัว กรมปศุสัตว์จึงต้องออกมาตรการป้องกันโรค ASF ที่เข้มงวดและรอบคอบ ผ่านการพัฒนาคู่มือปฏิบัติมาตรฐาน (SOP) ซึ่งได้รับการกลั่นกรองจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของประเทศ ครอบคลุมทุกขั้นตอนการเลี้ยงสัตว์อย่างละเอียดถี่ถ้วน ตั้งแต่การเฝ้าระวังอาการเริ่มแรก การเก็บตัวอย่างเลือด ไปจนถึงขั้นตอนการทำลายสุกรและการฟื้นฟูฟาร์มอย่างเป็นระบบ ความรุนแรงของโรค ASF เห็นได้ชัดจากข้อกำหนดที่เด็ดขาด กล่าวคือ หากพบโรคเพียงตัวเดียว จะต้องทำลายหมูในรัศมี 3 กิโลเมตรโดยทันที และควบคุมการเคลื่อนย้ายในรัศมี 10 กิโลเมตร การป้องกันจึงเป็นวิธีเดียวที่สามารถควบคุมโรคได้

การป้องกันโรคระบาดสัตว์ เป็นความท้าทายที่ควรต้องเข้มงวดทั้งในวันนี้และวันหน้า แต่จู่ๆก็มีข่าวกรมเตรียมทบทวนประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์การนำสุกร หรือหมูป่า เข้ามาเลี้ยงใหม่ พ.ศ. 2567 โดยเฉพาะผู้เลี้ยงสุกรหลังบ้านของชาวชาติพันธุ์ในพื้นที่สูง ทั้งๆ ที่ไม่ควรอนุญาตนำหมูป่าเข้าเลี้ยงโดยเด็ดขาด เพราะมันเป็นพาหะนำโรค ASF หากกรมทบทวนแล้วยอมลดระดับความเข้มงวดในการป้องกันโรค ย่อมนำมาซึ่งความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาดร้ายแรงอย่างน่ากังวล

 

นอกจากนี้การพิจารณามาตรการป้องกันโรคในระยะยาว ยังควรต้องศึกษาถึงผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิต เช่น ผู้ประกอบการไก่ไข่หลายรายที่ต้องนำเข้าพ่อแม่พันธุ์จากสหรัฐฯ และอีกหลายๆประเทศในยุโรป รวมถึงจีน อินเดีย และออสเตรเลีย ที่กำลังเกิดไข้หวัดนก เมื่อองค์การโรคระบาดสัตว์สั่งแบนใม่ให้ประเทศเหล่านั้นส่งออกสัตว์ปีกแล้ว ผู้ประกอบการไทยจะนำเข้าพ่อแม่พันธุ์จากที่ไหน ดังนั้น การเพิ่มผลผลิตพ่อแม่พันธุ์ให้เพียงพอสำหรับใช้ภายในประเทศอาจเป็นอีกหัวข้อหนึ่งที่รัฐต้องพิจารณา เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของผู้ประกอบการเหล่านั้นดำเนินต่อไปได้

เหล่านี้เป็นความท้าทายสำคัญที่มีผลต่อห่วงโซ่การผลิตอาหารของประเทศ ต่อเกษตรกร ต่อผู้บริโภค ต่อเศรษฐกิจและต่อความมั่นคงทางอาหารของชาติ ขอเพียงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต้องเข้มแข็งในมาตรการ และวางแผนระยะยาวอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด

โดย เพ็ญภัสสร์ วิจารณ์ทัศน์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เดชอิศม์" รับ 4 สส.ประชาธิปัตย์ งดออกเสียงไว้วางใจ "นายกฯ" ชี้เป็นเอกสิทธิ์ ไม่กระทบทำงาน
"นครพนม" วิกฤติ ฝุ่นพิษเกินค่ามาตรฐานอย่างมาก กระทบสุขภาพ การท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง
"นายกอิ๊งค์" ขอบคุณทุกเสียงสนับสนุน สภาฯโหวตฉลุย ไว้วางใจ 319 : 162 เสียง
คดีมีมูล "ศาลอาญา" รับฟ้อง "สื่อดัง" หมิ่นใส่ร้าย ผู้ผลิต "แอนิเมชัน 2475" รับเงินกองทัพ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ทะเลสาบผิงเทียน สะท้อนฟ้าสวยราวกระจกเงาบานใหญ่
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เหอหนานบูรณะ'พระพุทธรูป'เก่า 1,700 ปีครั้งแรกใน 580 ปี
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'ท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้' ปี 2567 โกยรายได้สูงเป็นประวัติการณ์
“ผบ.ทอ.” แสดงความเสียใจกับครอบครัวของ “พลทหาร” เหตุปืนลั่นขณะเข้าเวรเสียชีวิต
สลด "หนุ่มป่วยสารเคมีในสมองไม่เท่ากัน" โดดชั้น 4 ห้างดังย่านพระราม 2 ดับ ด้านห้างดัง แจงช่วยชีวิตหนุ่มเต็มที่แล้ว
"บริษัทเรือบรรทุกก๊าซ LPG" น้อมรับผิดเหตุเรือเกยตื้นเกาะล้าน ยันไม่พบก๊าซรั่วไหล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น