“ทักษิณ” วืดไปกัมพูชาพบ “ฮุนเซน” ศาลอนุญาตออกนอกปท. เฉพาะบรูไน 18-19 ก.พ.

ศาลอาญาอนุญาต “ทักษิณ” เดินทางออกนอกประเทศครั้งที่ 2 ไปบรูไน ประชุมอาเซียน ตามคำเชิญ “อันวาร์” ผ่านสถานทูต 18-19 ก.พ.นี้ เเต่ไม่อนุญาตไปเวียดนามและไปหาฮุน เซน ที่กัมพูชา เพราะไม่ได้เชิญในนามรัฐบาล

“ทักษิณ” วืดไปกัมพูชาพบ “ฮุนเซน” ศาลอนุญาตออกนอกปท. เฉพาะบรูไน 18-19 ก.พ.

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตในคำร้องที่ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. ที่ประเทศบรูไนดารุสซาลาม โดยมีรายงานว่า การขออนุญาตศาลในครั้งนี้ มาจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญผ่านสถานทูต ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเชิญไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว

 

ซึ่งนายทักษิณยื่นคำร้องตั้งเเต่วันที่ 13   ก.พ.2568 ศาลอาญานัดไต่สวนวันที่ 14   ก.พ.2568 มีการไต่สวนพยาน 2 ปาก คือนายทักษิณ เเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาเเล้วมีเหตุจำเป็นตามคำร้อง มีคำสั่งอนุญาตออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ.2568 ให้วางหลักประกันตามที่เสนอ (5 ล้านบาทเท่าเดิม) และให้มารายงานตัวภายใน 3 วัน  นับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ

โดยภายหลังศาลอาญาอนุญาตนายทักษิณก็ได้ทำสัญญาในเย็นวันนั้นเลย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายทักษิณได้ยื่นคำร้องขอเดินทางไปยังประเทศเวียดนามเเละประเทศกัมพูชา ในช่วงเวลาเดียวกัน (18-19 ก.พ.) เเต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาตให้ไป

รายงานข่าวระบุว่า ที่นายทักษิณขอไปเวียดนาม เป็นคำเชิญจากนักธุรกิจซึ่งมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาหน่วยงานรัฐของเวียดนาม โดยอ้างว่าเป็นการเชิญไปพูดคุยด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเเละด้านเศรษฐกิจ เเต่เป็นการเชิญส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาล ส่วนของกัมพูชา เป็นคำเชิญจากสมเด็จฮุน เซน เเต่เป็นในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาลกัมพูชา

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ระบุว่าการประชุมรัฐสภาล่ม 2 ครั้งติดต่อกัน เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีไม่สามารถคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล และเรียกร้องให้มีการยุบสภานั้นว่า ถือเป็นทัศนคติที่เป็นพิษต่อระบบรัฐสภา พรรคการเมืองที่ไม่มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะเลือกวิธีล้มกระดานเช่นนี้ กระบวนการให้ได้มาซึ่งกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นสิทธิหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ สส.ของแต่ละพรรคมีเอกสิทธิ์ที่จะออกสิทธิ์ออกเสียง ส่วนการที่ สส.ของพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนไม่เข้าร่วมประชุมร่วมกันของรัฐสภาในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเพราะมีความกังวลว่าการพิจารณามาตรา 256 ในรัฐธรรมนูญ สส.ทำได้หรือไม่ จะมีความสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย และขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาหรือไม่ เป็นความกังวลใจต่อการตีความในคำวินิจฉัยที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นเอกภาพหรือไม่เป็นเอกภาพอย่างที่นายณัฐพงษ์พยายามชี้นำสังคม

“เราใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้มาซึ่งรัฐบาลประชาธิปไตย รัฐบาลที่มาจากพลเรือนนำโดยพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยกให้ประชาชนเป็นโจทย์ใหญ่ในสมการเสมอ ประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง งานบริหารราชการแผ่นดินกำลังเดินหน้าแก้ปัญหาที่หมักหมมมานับสิบปี และกำลังส่งผลดีกับประเทศ การยุบสภาในขณะที่การบริหารกำลังไปได้ดี ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนและงบประมาณจำนวนมหาศาล จึงไม่มีเหตุผลใดให้ต้องยุบสภา” นายดนุพรกล่าว

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ  เปิดเผยเกี่ยวกับการที่ สส.สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติไม่แสดงตนในการนับองค์ประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยมีระเบียบวาระคือ ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอในครั้งนี้ เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดโอกาสให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับผ่านการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยเพิ่มบทบัญญัติหมวด 15/1 มาตรา 256 แห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งขัดกับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่เคยมีมาก่อนแล้วว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจะต้องมีการประชามติก่อน ประกอบกับญัตติด่วนให้มีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในกรณีดังกล่าวตกไป จึงเป็นสาเหตุที่ทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถแสดงตนในการนับองค์ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้

 

 

นายอัครเดช กล่าวว่า อย่างไรก็ดี พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ทุกฝ่ายต้องเคารพและปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากจะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จะต้องไม่ขัดกับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ คือการทำประชามติก่อนเริ่มกระบวนการแก้ไขในรัฐสภา ประกอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องไม่มีการแก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 คือบททั่วไปและพระมหากษัตริย์ อีกทั้งไม่มีการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติมาโดยตลอด

ด้านนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงปัญหาสภาล่มซ้ำซากจากการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่ว่าสภาจะประชุมอีกกี่ครั้ง สถานการณ์ก็ยังคงเหมือนเดิม และจะยิ่งส่งผลเสียหายมากขึ้น พร้อมแนะนำให้วิปทั้งสามฝ่ายต้องเร่งหารือแนวทางแก้ไขเพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐสภา

นายนิกรระบุว่า หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่มีประชามติรองรับ ไม่ว่าจะพยายามผลักดันแค่ไหน ก็มีแนวโน้มจะไม่ผ่านการพิจารณาในรัฐสภา เพราะสุดท้ายแล้วการเผชิญหน้ากันจะไม่ก่อให้เกิดผู้ชนะ มีแต่จะทำให้สถานการณ์ในสภาแตกหักโดยเปล่าประโยชน์

“อาจต้องพิจารณาถอนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับออกไปก่อน แล้วรอให้ประชาชนแสดงเจตจำนงผ่านประชามติ หากเสียงข้างมากเห็นชอบ ก็จะเป็นเหตุผลให้วุฒิสภา (สว.) มีแนวโน้มให้ความเห็นชอบมากขึ้น จากนั้นค่อยยื่นร่างใหม่ในนามพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้เกิดการหารือปรับปรุงร่วมกันและรับผิดชอบร่วมกัน แบบนี้ถึงจะมีโอกาสสำเร็จ” นายนิกรกล่าว

 

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน นำ สส.แถลงกดดันนายกรัฐมนตรียุบสภาหลังองค์ประชุมไม่ครบ ในวาระพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ให้มี ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า การที่พรรคประชาชนออกมากดดันเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจยุบสภา เพียงเพราะการประชุมรัฐสภาไม่เป็นไปตามความคาดหวังของตัวเอง ถือเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล ถ้าย้อนไปดูประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมา   การที่นายกฯ จะตัดสินใจยุบสภาได้นั้น ต้องถึงขั้นสภาวะเดดล็อก ไม่มีทางออกจนถึงที่สุดจริงๆ  นายกฯ จึงจะตัดสินใจ แต่กรณีการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ ยังสามารถใช้ช่องทางและวิธีการแก้ปัญหาในรัฐสภาได้อยู่ ไม่ถึงกับว่าเป็นทางตันทางการเมือง แต่พรรคประชาชนกลับเรียกร้องให้ยุบสภา จึงทำให้มองได้ว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองเกินกว่าเหตุ เพราะประเทศชาติไม่ใช่ของเล่น ที่เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ล้มกระดานแล้วเริ่มใหม่  สิ่งที่สำคัญการเลือกตั้งแต่ละครั้งล้วนแต่ใช้งบประมาณแผ่นดินหลายพันล้านบาท จึงขอให้พรรคประชาชนทบทวนบทบาททางการเมืองของตัวเองเสียใหม่ การออกมาแถลงลักษณะนี้เป็นการเล่นใหญ่เกินไป

นายธนกรระบุด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในส่วนที่จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ตนเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาทุกคนไม่มีปัญหา พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ที่ไปแตะหมวด 1 หมวด 2 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังมีการพ่วงหมวด 15/1 เพิ่มเข้ามา เพื่อเปิดทางให้การเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. 200 คน เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่ต้องทำประชามติฟังเสียงประชาชนก่อนนั้น เป็นการขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 อย่างชัดเจน จึงเป็นความสุ่มเสี่ยง หากร่วมพิจารณาอาจจะขัดต่อกฎหมายได้  ทำให้สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ไม่ขอร่วมด้วย

“การที่พรรคประชาชนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยหวังจะยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ไม่เพียงสุ่มเสี่ยงขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันทุกองค์กรแล้ว พรรคประชาชนยังไม่ฟังเสียงพี่น้องประชาชนโดยการทำประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย แบบนี้อาจถูกมองได้ว่าการกระทำย้อนแย้งกับคำพูดหรือไม่ หากเคารพเสียงประชาชนจริงๆ อย่างที่พูด ก็สมควรต้องทำประชามติก่อนการแก้ไข หรือยกร่างใหม่ตามที่ศาลบอก และสิ่งที่สำคัญควรมุ่งที่จะแก้ไขกฎหมายเพื่อพัฒนาช่วยเหลือความเป็นอยู่ประชาชนมาเป็นอันดับแรก ไม่ใช่มุ่งเน้นจะช่วยนักการเมืองก่อน” นายธนกรกล่าว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เช็กค่าฝุ่นพิษเช้านี้ "กทม." ส่วนใหญ่สีส้ม "บางนา" หนักสุด อีก 18 จังหวัด ทั่วไทยยังน่าห่วง
“สภาองค์การนายจ้างฯ“ หารือร่วมคณะผู้บริหารระดับสูง องค์การแรงงานระหว่างประเทศ มุ่ง ยกระดับนโยบายและแนวทางปฏิบัติด้านแรงงานของไทย-แรงงานข้ามชาติ สู่ มาตรฐานสากล
"ตร.ไซเบอร์" ปูพรม 4 จุด ล่าเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ “Hydra 888” ยึดทรัพย์กว่า 35 ล้าน
"คณะผู้แทน บ.จีนฯ" หารือ "นายกฯ" ยืนยันความพร้อมขยายลุงทุนในไทย ดผลักดัน AI-เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานทางเลือก
รวบยกแก๊ง "ตร.สอบสวนกลาง" จับพวกลักไฟหลวงขุดคริปโตฯ ทำรัฐเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
"สสส." ร่วม we!park เตรียมจัดงาน "Active City Forum" มุ่งผลักดันกรุงเทพฯ สู่เมืองสุขภาวะ
3 นิ้วงัดมุกเดิม "ขนุน" ผู้ต้องหาคดี 112 ประกาศอดอาหารในเรือนจำ กดตัวขอประกันตัว
จีนซ้อมรบด้วยกระสุนจริงนอกชายฝั่งออสเตรเลีย
เดินหน้าสู่สากล! "ศุภชัย" เปิดเวทีสัมมนานานาชาติ "นวัตกรรมท้องถิ่น 2568" มุ่งยกระดับการบริหารจัดการเขตเมืองและการปกครองส่วนท้องถิ่น ผลักดันการพัฒนานวัตกรรมท้องถิ่นสู่ระดับสากล
ศาลสั่งขัง 2 เดือน แก๊งซิ่งรถประลองความเร็ว บนมอเตอร์เวย์ ชนวินาศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น