AFP รายงานว่านายเรนเนอร์ ดิโอนิซิโอ โฆษกตำรวจออสเตรียได้แถลงข่าวเปิดเผยว่ามือมีดชายวัย 23 ปีเป็นผู้ขอลี้ภัยชาวซีเรียได้วิ่งไล่แทงผู้คนแบบไม่เลือกหน้าที่เมืองวิลลัค ในจังหวัดคารินเธีย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 นาฬิกาวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นเด็กชายวัย 14 ปี และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้อาการสาหัส 2 คน
เคราะห์ดีที่ขณะเกิดเหตุ พลเมืองดีซึ่งเป็นไรเดอร์ส่งอาหารชาวซีเรียเห็นเหตุการณ์พอดี จึงตัดสินใจขับรถพุ่งชนคนร้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุมเอาไว้ได้ ล่าสุดยังไม่ทราบเหตุจูงใจ แต่พยานที่เห็นเหตุการณ์หลายคนเล่าว่าขณะก่อเหตุ มืดมีดได้ตะโกนคำสรรเสริญพระอัลเลาะห์ว่า “อาลาฮู อัคบาร์” ซึ่งแปลว่าพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด
โฆษกตำรวจเผยว่าคนร้ายเป็นผู้บัตรผู้อยู่อาศัย และอยู่ระหว่างการขอลี้ภัยที่ออสเตรียและไม่มีประวัติการก่ออาชญากรรม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้ขอลี้ภัยชาวอัฟกานิสถานได้ก่อเหตุขับรถพุ่งชนฝูงชนที่นครมิวนิค ของเยอรมนีเพียง 2 วันทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนบาดเจ็บ 37 คน
หลังเกิดเหตุนายปีเตอร์ ไคเซอร์ ผู้ว่าการจังหวัดคารินเธีย จากพรรคสังคมประชาธิปไตยได้เรียกร้องให้มีการลงโทษคนร้ายอย่างรุนแรง รวมทั้งให้เนรเทศออกจากออสเตรีย ขณะที่ผู้นำฝ่ายขวาจัดออกแถลงการณ์ตำหนิระบบการจัดการผู้ลี้ภัยของออสเตรียว่าล้มเหลว พร้อมเรียกร้องให้ยกระดับมาตรการควบคุมผู้ลี้ภัยที่เข้มงวด
ออสเตรียมีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในประเทศมากเกือบ 1 แสนคน และหลังจากรัฐบาลบาชาร์ อัลอัซซาดล่มสลายเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว (2567) ออสเตรียและหลายประเทศยุโรปก็ระงับคำร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเพื่อประเมินสถานการณ์