วันนี้ ที่จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ดินสนามกอล์ฟเขาใหญ่จังหวัดนครราชสีมาจนเกิดวิวาทะ “หน้าตัวเมีย” และวันนี้นักจัดรายการชื่อดังออกมาน้อมรับ โดยตอบสั้นๆ ว่า “อืม” ว่า เป็นเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการแล้ว เป็นเรื่องของหน่วยงานรัฐ ทุกฝ่ายบอกมาแล้วว่า ประชาชนที่ได้ที่ดินมาในพื้นที่บริเวณนั้น ทุกคนถือโฉนดที่ดินทั้งนั้น ได้มาด้วยความสุจริต ส่วนที่มาของโฉนดจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของหน่วยงานราชการต้องไปพิสูจน์ทราบ ทั้งกรมที่ดิน ส.ป.ก. และ นิคมในส่วนของ พม.เข้ามาด้วย ดังนั้นถ้าอยู่ในกระบวนการของระบบราชการแล้ว ตนก็ไม่สามารถที่จะให้ความเห็นอะไรได้ ต้องปล่อยให้หน่วยงานราชการต้องทำงานพิสูจน์ทราบต่อไป และเมื่อออกมาอย่างไรไม่มีใครขัดต่อกฎหมายได้
ส่วนกรณีที่รายการข่าวดังกล่าวออกมาพาดหัวถึงการฟอกขาว มรดกบาป นค.3 ให้เป็น โฉนดให้กับนายทุนนั้น นายอนุทิน มองว่า เขาอาจเรียนประวัติศาสตร์ เพราะส่วนใหญ่ที่ตนทราบจากอธิบดีกรมที่ดิน เรื่องการเปลี่ยนที่ดินจากนิคม ต่างๆหรือที่ส.ป.ก. เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น 50-60 ปีมาแล้ว ซึ่งคนที่ถือครองปัจจุบันนี้ก็ซื้อผ่านการโอนโฉนด มีพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ตามหน้าโฉนดทุกอย่าง ฉะนั้นการซื้อขายเหล่านั้นเป็นการซื้อขายโดยสุจริต กรมที่ดินรับโอนรับค่าธรรมเนียม ผู้ขายยินดีขาย ผู้ซื้อยินดีซื้อ ทุกอย่างจบในเรื่องของการซื้อขายเปลี่ยนมือ ถือเป็นเรื่องสุจริต แต่ต้องไปดูว่าออกโฉนดมาได้อย่างไร ทำไมถึงไม่ตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนออกโฉนด และเหตุใดจึงปล่อยให้เปลี่ยนมือ หรือซื้อขาย รับค่าธรรมเนียมมามากมายไปหมด ซึ่งมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบอีกมากมาย
เมื่อถามว่า ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองจะสะดวกใจทำงานร่วมกับพรรคกล้าธรรมในรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การทำงานรับใช้บ้านเมือง ต้องไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง ส่วนใครจะทำอะไร เตะ เจาะยาง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง คนที่กล่าวหามาก็มีสิทธิ์กล่าวหา เพราะเขาบอกทำเพื่อประชาชน ส่วนคนที่ถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่พิสูจน์ทราบว่าถูกต้องอย่างไร ซึ่งถ้าถูกต้องคนที่กล่าวหาก็ต้องรับความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง ตรงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เป็นเรื่องที่เล็กมาก ไม่มีสาระสำคัญอะไร การทำงานในความเป็นรัฐบาล เราต้องมองผลประโยชน์ ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก เรื่องส่วนตัวก็อย่างที่บอกก็ลงบัญชีกันไป
นายอนุทินยังชี้แจงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ซึ่งมีรายงานข่าวว่าไปร่วมงานแต่งที่มีร้อยเอกธรรมนัสไปร่วมด้วย แต่ไม่ทักทายกัน โดยยอมรับว่าก็เจอ และนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เข้ามาทักทายยกมือไหว้อย่างสุภาพ นอบน้อมและบอกว่า สิ่งไหนที่ล่วงเกินไป ต้องขออภัยด้วย เขาก็ทำตามหน้าที่ ซึ่งตนได้บอกว่าเต็มที่เลย ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ดำเนินการไป แล้วถ้ามีอะไรถูกต้องก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพี่ด้วย ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับพรรคกล้าธรรม การเมืองก็อย่างนี้ ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ก็เล่นการเมืองไม่ได้ เป็นเรื่องปกติของการเมือง ของคนที่มีฐานเสียงแข็งแรง อย่างที่ตนเคยบอก และเปรียบเป็นเหมือนภูเขาทอง