“ตำรวจไซเบอร์” ทลายเว็บพนันฯรายใหญ่กลางกรุงฯ พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 1.1 หมื่นล้านต่อปี

ตำรวจไซเบอร์ทลายเว็บพนันรายใหญ่ กลางกรุงมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 1.1 หมื่นล้านต่อปี พร้อมขยายผลรวบแอดมินอีกเว็บไซด์

“ตำรวจไซเบอร์” ทลายเว็บพนันฯรายใหญ่กลางกรุง พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 1.1 หมื่นล้านต่อปี – Top News รายงาน

 

ตำรวจไซเบอร์

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) แถลงข่าว กรณีตำรวจไซเบอร์ทลายเว็บพนันรายใหญ่กลางกรุง ซึ่งมีเงินหมุนกว่า 1.1 หมื่นล้านต่อปี พร้อมขยายผลรวบแอดมินอีกเว็บฯ

พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 กล่าวว่า ในคดีเเรก สืบเนื่องจากการสืบสวนเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่ เว็บไซต์ hydra888f.com ซึ่งตรวจพบว่ามีสมาชิกผู้เล่นกว่า 18,000 คน มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 11,520 ล้านบาทต่อปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้ 9 ราย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพัก ภายในชั้น 17 ของคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์-หัวหมาก แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง พร้อมจับกุมผู้จัดการ ด้านการเงินและผู้ทำหน้าที่กดเงินสด 2 ราย ได้แก่ นายพงษ์ณพัฒน์ (สงวนนามสกุล) หรือ อาร์ม อายุ 31 ปี และนายธนบดี (สงวนนามสกุล) หรือ ไอซ์ อายุ 29 ปี พร้อมจับกุมบัญชีม้าอีก 3 ราย โดยสามารถตรวจยึดของกลางทั้งหมด ประมาณ 10 ล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีความผิดตาม พรบ. การพนันและฟอกเงิน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้ทางตำรวจไซเบอร์ได้มีการเข้าร่วมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะมีการวางมาตรการป้องกันการเปิดบัญชีม้ามากขึ้น รวมทั้งการถอนเงินในระบบโมบายแบงค์กิ้ง ที่จะต้องมีการ KYC อยู่ตลอด แม้แต่การลงทะเบียนเป็นผู้ใช้โทรศัพท์เองทาง กสทช. ก็มีการกำหนดมาตรการแล้วว่าจะต้องมีการ KYC ยืนยันตัวตนด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติก็ตาม

ส่วนกรณีเว็บการปิดกั้นเว็บพนัน หรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่างๆที่จะมีการย้ายถิ่นฐานไปยังปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น เรื่องนี้ทาง ผบ.ตร. ได้มีนโยบายและมีข้อสั่งการชัดเจน โดยให้ทำการสกัดกั้นเส้นทางการลำเลียงไม่ว่าจะเป็นวัสดุสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมทั้งคนที่จะเคลื่อนย้ายไปตั้งยังที่ทำการใหม่ หลังจากที่ถูกกดดันจากฝั่งชายแดนด้านตะวันตก อีกทั้งยังมีการตรวจสอบคนที่จะออกไปยังฝั่งชายแดนปอยเปตอีกด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

DSI หารือ 3 หน่วยงาน แบ่งภารกิจคลี่ปม "ตึกสตง." ถล่ม
จนท.นำรถแบคโฮเคลียร์พื้นที่ ทำทางขึ้นรถเครนยักษ์ เพื่อนำร่างผู้สูญหายที่เหลือออกมา
"นฤมล-ธรรมนัส" ร่วมต้อนรับ "วีระพงษ์" นายกอบจ.มุกดาหาร สมัครสมาชิก พรรคกล้าธรรม มั่นใจอนาคตเลือกตั้งสนามใหญ่
"เสธหิ" พูดกระแทกใจ "อันที่สุดของไทยนั้นคือชาติ หากพินาศแล้วใครอยู่ได้หนอ"
สาวสุดช็อก จองตั๋วเครื่องบินไป จ.สกลนคร ราคาสูงทะลุ 1.4 หมื่นบาท
เกาหลีใต้จ่อเพิ่มการนำเข้าก๊าซ LNG จากสหรัฐ
สิงคโปร์ชี้สหรัฐทำลายระบบการค้าเสรีที่สร้างมากับมือ
เกาหลีใต้ประกาศเลือกตั้ง 3 มิถุนายน
อั้นไว้ก่อน ค่อยเติม พรุ่งนี้น้ำมันลด "เบนซิน-แก๊สโซฮอล์" ทุกชนิด ปรับราคาลง
“ปลัดฯแรงงาน” เผยจ่ายชดเชยลูกจ้างเสียชีวิต “ตึกสตง.ถล่ม” แล้ว กว่า 19 ล้าน พร้อมดูแลสิทธิผู้บาดเจ็บ ว่างงานเต็มที่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น