“รมว.ปุ๋ง” ขับเคลื่อน Soft Power 5 จังหวัดภาคใต้อ่าวไทย มอบนโยบายหนุนเทศกาลประเพณี ท่องเที่ยว อาหาร ให้ดังทั่วโลก

"รมว.ปุ๋ง" ขับเคลื่อน Soft Power 5 จังหวัดภาคใต้อ่าวไทย มอบนโยบายหนุนเทศกาลประเพณี ท่องเที่ยว อาหาร ให้ดังทั่วโลก ผลักดันจังหวัดสงขลาเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก ชง “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” นครศรีธรรมราช – “เมืองเก่าสงขลาและบริเวณโดยรอบ” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ภายในปี 2571 ชูเป็นหมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างอาชีพ-รายได้ พัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดสงขลาและประเทศอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่ากระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและรับฟังข้อเสนอแนะการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดและเครือข่ายด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 5 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา เข้าร่วม ณ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเพื่อขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมในพื้นที่ให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลโดยการนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการขับเคลื่อน Soft Power สร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลก และตามนโยบาย วธ. มุ่งส่งเสริมทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจ พัฒนาสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมให้มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในตลาดโลก ทำให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกมาเที่ยวในมิติด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 5 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานีและสงขลา มี Soft Power ที่มีมนต์เสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอย่างเปี่ยมล้นไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลประเพณี ศิลปะการแสดง อาหาร มรดกภูมิปัญญา และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นอยู่มากมาย รวมทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอยู่ในทุกจังหวัด จึงขอให้หน่วยงานสังกัด วธ.ใน 5 จังหวัดนี้บูรณาการความร่วมมือกับจังหวัด หน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม และชุมชน ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมเทศกาลประเพณีและอีเว้นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเผยแพร่ไปสู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ก่อนถึงช่วงเทศกาลอย่างน้อย 3 เดือน รวมทั้งจัดทำแผนงานจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวในมิติทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมระหว่างพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้วางแผนและเตรียมตัวเดินทางล่วงหน้า อีกทั้งจูงใจให้มาเที่ยวชมและศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรมและประเพณีภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยได้อย่างสะดวกและเข้ามาท่องเที่ยวได้ในทุกจังหวัด

การประชุมหารือในครั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้รับฟังข้อเสนอแนะจากเครือข่ายสภาวัฒนธรรม และหน่วยงานในพื้นที่ 5 จังหวัด ขอให้ วธ.สนับสนุนการส่งเสริมและขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาภาคใต้ อาทิ การแข่งเรือ อาหารถิ่นที่มีเรื่องเล่าความเป็นมา มวยไชยา ดนตรีพื้นถิ่นมลายู และต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุยืนยาว (รุกข มรดก) เป็นต้น เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์และสืบสาน รวมถึงจัดหาสวัสดิการหรือมาตรการสนับสนุนศิลปินพื้นบ้านให้มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนรณรงค์การเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วยวัฒนธรรมไทย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากนั้น ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดวธ. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในจังหวัดอย่างเต็มที่ ร่วมผลักดันงานเทศกาลประเพณี หรือกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ตลอดปี ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ สนับสนุนนโยบายเมืองไทยเที่ยวได้ทั้งปีของรัฐบาล เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ ได้มอบแนวทางและขอความร่วมมือทุกฝ่ายร่วมกันผลักดันการประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) ของชุมชน ให้เกิดการตลาดที่เข้มแข็ง ส่งเสริมสินค้าที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น สร้างรายได้ให้กับชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนอาหารพื้นถิ่นให้เป็นเมนูอาหารที่ไม่ควรพลาด ส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานของศิลปิน ให้ศิลปินสร้างศิลปิน และเป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ตลอดจนให้ดำเนินการสนับสนุนส่งเสริมสถานที่โบราณสถานหรือพื้นที่ศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของชุมชน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างชุมชนหรือจังหวัด ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เกิดการท่องเที่ยวได้หลากหลายพื้นที่ เกิดเศรษฐกิจชุมชนกว้างขวาง และเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน

 

 

 

“ขณะเดียวกัน วธ.จะประสานความร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมและชุมชนเดินหน้าผลักดันให้จังหวัดสงขลา เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) อีกทั้งจะเสนอเมืองเก่าสงขลาและบริเวณโดยรอบต่อยูเนสโกให้พิจารณาประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยตั้งเป้าหมายไว้ภายในปีพ.ศ. 2571 ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและเอกสารทางวิชาการ อีกทั้งจะเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราชให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมภายใน 1-2 ปีนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารเสนอต่อยูเนสโก เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย 1 ภูมิภาค 1 มรดกโลกตามนโยบายที่วางไว้ ทำให้พื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 5 จังหวัดเป็นหนึ่งในหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ช่วยสร้างอาชีพ รายได้ส่งเสริมเศรฐกิจภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยอย่างยั่งยืน” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เดินหน้าสู่สากล! "ศุภชัย" เปิดเวทีสัมมนานานาชาติ "นวัตกรรมท้องถิ่น 2568" มุ่งยกระดับการบริหารจัดการเขตเมืองและการปกครองส่วนท้องถิ่น ผลักดันการพัฒนานวัตกรรมท้องถิ่นสู่ระดับสากล
ศาลสั่งขัง 2 เดือน แก๊งซิ่งรถประลองความเร็ว บนมอเตอร์เวย์ ชนวินาศ
การเคหะแห่งชาติฉลองครบรอบ 52 ปี จัดกิจกรรมวิชาการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย พร้อมดึงสองรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ PEA และ EGAT เสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการพลังงานและพลังงานทดแทน
"เลขาฯรมว.มหาดไทย" รับข้อเสนอสภาการพยาบาล ร่วมมือใช้กลไก ลดการใช้ความรุนแรง-ดูแลความปลอดภัยในรพ.
‘สนธิญา’ ร้องปปง. ยึดทรัพย์‘หม่อง ชิตตู’ หวั่นมีขบวนการฟอกเงินในไทย
“วราวุธ” ประณามคนขายบุหรี่ไฟฟ้าให้เด็กเยาวชน ย้ำ พม.พร้อมทำงานกับทุกฝ่ายสร้างครอบครัวเข้มแข็ง
"อี้ แทนคุณ" ยันมีหลักฐานเด็ด เอาผิดนักร้องดังตบทรัพย์ 14 ล้านบาท
"สหพัฒน์ให้น้อง" และ "ซื่อสัตย์เพื่อชาติ" มอบรางวัลชนะเลิศ ประกวดร้องเพลงความซื่อสัตย์ ให้กับโรงเรียนวัดบางฝ้าย
รวมเรื่องที่ต้องรู้ เกี่ยวกับ Utility Green Tariff (UGT)
ปภ.ช.เตือน 23-25 ก.พ.นี้ อากาศแปรปรวนหนัก "ภาคใต้" รับมือฝนฟ้าคะนอง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น