ล่าสุดพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงแผนการ จัดการเรื่องดังกล่าว ว่า ได้แบ่งเรื่องออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนที่ 1 ทางฝ่ายปกครอง นำโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และตำรวจในพื้นที่ ได้มีการประชุมและรับฟังความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดยเป็นประเด็น ในเรื่องของการใช้ยานพาหนะ , การไปสถานบริการ และการอยู่อาศัย ว่า ถูกต้องหรือไม่ … โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ที่ให้พิจารณาดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง และให้ดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งในส่วนของจังหวัด ได้มีการขับเคลื่อน และประชุมวางแผน แบ่งหน้าที่การปฏิบัติงานอย่างชัดเจน

ในส่วนของตำรวจนั้น ได้สั่งการไปที่ ตำรวจภูธรภาค 5 , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล , ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว รวมไปถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้มีการดำเนินการ 5 ประเด็นหลัก คือ ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อนำมาสู่การปฏิบัติว่า มีการพำนักอาศัยในประเทศไทย เกินระยะเวลาที่กำหนด หรือ Over stay หรือไม่ และพักอาศัยอย่างไร กระทำผิดความผิดอะไรบ้าง ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง หากกระทำผิดกฎหมายในส่วนรับผิดชอบของตำรวจหน่วยงานใด ก็บังคับใช้กฎหมายในส่วนนั้น

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า สำหรับสิ่งที่ประชาชนไม่สบายใจนั้น เราจะตรวจสอบดูว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว ซึ่งหากพบว่า มีตำรวจเข้าไปเอื้อประโยชน์ให้แกกลุ่มคนพวกนี้… ก็จะดำเนินการทางวินัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองได้เน้นย้ำ โดยได้สั่งการไปยัง พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำกับดูแลความมั่นคง โดยภายใน 2-3 วันนี้ จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบความคืบหน้า และบังคับใช้กฎหมาย จึงขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน หากมีคลิป หรือข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติม ก็ขอให้แจ้งเข้ามาในช่องทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทุกช่องทาง และขอยืนยันว่า ชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย แอบแฝงทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ยืนยันว่า จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น

ขณะเดียวกัน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน กล่าวถึง ประชากรของ อ.ปาย ว่า มีประมาณ 38,000 คน มีนักท่องเที่ยว ชาวสหราชอาณาจักร เข้ามาในพื้นที่ เป็นอันดับ 2 รองลงมาเป็น ชาวอิสราเอล เข้ามาเดือนละ 2,000-3,000 คน ซึ่งเป็นการเข้ามาท่องเที่ยวและเดินทางกลับ ส่วน ตัวเลข 30,000 คนนั้น ไว้เป็นตัวเลขสะสมตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ยืนยันว่า ได้ลงพื้นที่ อำเภอปาย และเข้าไปตรวจสอบ ภายในโบสถ์ยิว ที่มีการก่อสร้าง ยืนยันว่า โบสถ์แห่งนี้ ไม่ได้มีอะไรผิดกฎหมาย ส่วนที่มีการก่อสร้างกำแพงสูง หน่วยราชการและทุกหน่วยงาน สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ รวมถึง กรณีที่คนไทย ไม่สามารถเข้าไปภายในโบสถ์ได้นั้น … ผู้นำศาสนา อ้างว่า ห่วงใยต่อความปลอดภัยของชาวอิสราเอลที่มาทำกิจกรรมในโบสถ์ หรือ Chabad ซึ่งจะจัดทุก วันศุกร์ เสาร์ เพื่อใช้เป็นพื้นที่พบปะ ทำพิธีทางศาสนา และร่วมรับประทานอาหารเท่านั้น ซึ่งไม่มีการกระทำผิดทางกฎหมายแต่อย่างใด

ส่วนปัญหาอาชญากรรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในพื้นที่อำเภอปาย เบื้องต้น ไม่พบ มีแต่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะ 4 นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่ไปสร้างความไม่เหมาะสมภายในโรงพยาบาลปาย และผลักดันกลับประเทศไปแล้ว นอกจากนั้น ทางจังหวัด ยังได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ลงพื้นที่ตรวจสอบการแย่งอาชีพคนไทย พบร้านดนตรี มีการนำชาวอิสรเอล มาร่วมเล่นดนตรี แต่ก็ได้มีการจับกุมดำเนินการแล้ว