วันที่ 2 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จากนายวิชยะ ปวรหิรัญกุล อายุ 58 ปี ตัวแทนสมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกภาคอีสาน ชาวอำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา หลังจากถูกด่านชั่งน้ำหนักแห่งหนึ่ง จังหวัดบุรีรัมย์ จับใช้ยานพาหนะบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งจากการชั่งน้ำหนักมีน้ำหนักรวม 51,440 กิโลกรัม ซึ่งเกินกฎหมายกำหนดอยู่ที่ 50,500 กิโลกรัม จึงส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรหนองกี่ ดำเนินคดี ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 เวลา 18.25 น
จากการสอบถามผู้ประกอบการ รถบรรทุกภาคอีสาน เปิดเผยว่า ตนเองได้นำรถพ่วง 22 ล้อบรรทุกไม้เชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า จากจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีน้ำหนัก 50,000 กิโลกรัม ซึ่งมีเอกสารยืนยันจากการชั่งน้ำหนักจากต้นทาง พอมาถึงด่านชั่งแห่งหนึ่ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าน้ำหนักได้เกินกว่ากฎหมายกำหนด คือ 51,440 กิโลกรัม ซึ่งตนก็มั่นใจว่า รถบรรทุกส่วนใหญ่จะบรรทุกมาน้ำหนักไม่เกินกฎหมายกำหนดอยู่แล้ว เพราะยังไงก็จะต้องผ่านด่านชั่ง หากถูกจับก็ต้องถูกยึดรถส่งดำเนินคดี ทำให้เสียเวลา หลังจากที่ชั่งน้ำหนักเกินตนพยายามนำเอกสารรายละเอียดเข้าชี้แจง กับเจ้าหน้าที่ประจำด่านแต่ก็ไม่ยอมรับฟัง พร้อมจะดำเนินคดีอย่างเดียว ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นธรรม กับผู้ประกอบการรถบรรทุก จึงได้เข้าร้องทุกข์กับนายวิรัตน์ กลิ่นขจร นายกอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความเป็นธรรม ก่อนที่จะส่งนายชัยพร เพียรธรรม ปลัดอำเภอ นำรถบรรทุกพวง 22 ล้อ ไปชั่งที่ตาชั่งกลาง ตั้งอยู่ที่ 150 หมู่ 6 ตำบลไทยเจริญ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา โดยสามารถชั่งได้ที่น้ำหนัก 50,070 กิโลกรัม ซึ่งก็ยังไม่ได้เกินตามที่กฎหมายกำหนดอยู่ที่ 50,500 กิโลกรัม ซึ่งมองว่ามันรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ โดยก่อนหน้านี้มีรถบรรทุกที่ถูกจับกุมในลักษณะเดียวกันประมาณ 50 คัน จึงมองว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกทั้งที่น้ำหนักไม่ได้เกิน แต่พอมาชั่งที่ด่านชั่งน้ำหนัก แต่กลับน้ำหนักเกินเกือบทุกคัน จึงอยากออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ
นายชัยพร เพียรธรรม ปลัดอำเภอ และหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการร้องทุกข์จากสมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกภาคอีสาน เกี่ยวกับการช่างน้ำหนักของรถบรรทุกที่เกินกฎหมายกำหนดอยู่ที่ 50,500 กิโลกรัม ก็จะต้องมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบด่านชั่งน้ำหนักแห่งนี้ ว่าเกิดจากการผิดพลาดอะไร เพราะวันนี้ตนก็ได้มากับผู้ที่ร้องทุกข์กับการตรวจสอบน้ำหนักที่ตาชั่งกลาง ก็ไม่พบว่ามีน้ำหนักเกินแต่อย่างใด จึงจะต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อให้นายอำเภอดำเนินการในขั้นตอนต่อไป หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติทางหลวง ได้ออกประกาศเรื่องห้ามใช้ยานพาหนะ โดยที่ยานพาหนะนั้นมีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลา เกินกว่าที่ได้กำหนด หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหาย เดินบนทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงสัมปทาน เข่น พ่วง 2 เพลา 4 ล้อ ใช้ยาง 8 เส้น 5 เพลา 18 ล้อ น้ำหนักห้ามเกิน 50,500 กิโลกรัม.
ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา
