“ทรัมป์” บี้หนัก ฮุบ แหล่งแร่หายาก “ยูเครน” ขู่ปิดเน็ต Starlink

"ทรัมป์" เดินหน้ารุกหนัก ฮุบแหล่งสินแร่หายาก"ยูเครน" จี้ "เซเลนสกี" ลงนาม ใช้หนี้สหรัฐ ไม่งั้นเจอดี ปิดดาวเทียม Starlink ขณะเดียวกัน "ทรัมป์" เขย่าเพนตากอน! ปลดฟ้าผ่า ประธานเสนาธิการทหาร - 5 บิ๊กเหล่าทัพ

ข่าว 14 (บี4)

ปก – จบเห่”ยูเครน” ( ทรัมป์ ชี้ – เซเลนสกี เศร้า )
CG – “ทรัมป์”บี้หนัก ฮุบ”แหล่งแร่หายาก”ยูเครน”-ขู่ปิดเน็ตStarlink
โปรย – “ทรัมป์” เดินหน้ารุกหนัก ฮุบแหล่งสินแร่หายาก”ยูเครน” จี้ “เซเลนสกี” ลงนาม ใช้หนี้สหรัฐ ไม่งั้นเจอดี ปิดดาวเทียม Starlink ขณะเดียวกัน “ทรัมป์” เขย่าเพนตากอน! ปลดฟ้าผ่า ประธานเสนาธิการทหาร – 5 บิ๊กเหล่าทัพ

หลังจากที่ โดนัล ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กดดัน เซเลนสกี ผู้นำยูเครน มาตลอด จะตัดเงินทุนความช่วยเหลือจากสหรัฐทั้งหมด จนในที่สุด เซเลนสกี ไม่อาจทนได้อีกต่อไป….

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน โดยอ้างข้อมูลจาก แหล่งข่าว 3 ราย ที่ไม่เปิดเผยชื่อ … เผยว่า ระหว่างการประชุมของ ประธานาธิบดี เซเลนสกี แห่งยูเครน และ คีธ เคลล็อกก์ ทูตด้านสงครามยูเครนประจำสหรัฐ / ทางการยูเครน ก็ได้รับแจ้งว่า พวกเขาจะเผชิญกับการยุติการให้บริการดาวเทียมอินเทอร์เน็ต สตาร์ลิงค์ (Starlink) ในเร็ว ๆ นี้ หากพวกเขาไม่ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุสำคัญกับสหรัฐ ซึ่งการสูญเสียบริการนี้ จะเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากของยูเครน

สำหรับ สตาร์ลิงค์นั้น ให้บริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สำคัญแก่ยูเครน ที่กำลังอยู่ในภาวะสงคราม โดย อีลอน มัสก์ CEO สเปซเอ็กซ์ และเป็นเจ้าของสตาร์ลิงค์ ได้รีบส่ง เทอร์มินัล สตาร์ลิงค์ หลายพันเครื่องไปยังยูเครน เพื่อทดแทนบริการสื่อสารที่ถูกทำลายโดยรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2022 จน มัสก์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นฮีโร่ของยูเครน  แต่ต่อมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปี 2022 มัสก์ ได้จำกัดการเข้าถึงบริการไป 1 ครั้ง เนื่องจากเขาเริ่มจะวิพากษ์วิจารณ์การจัดการสงครามของยูเครนมากขึ้น … และสำหรับการที่ ยูเครน ยังคงใช้บริการสตาร์ลิงค์อยู่นั้น เรื่องนี้จึงได้รับการหยิบยกขึ้นมาในการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ของสหรัฐและยูเครน

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ก็ได้กล่าวว่า ยูเครนจะลงนามข้อตกลงมอบสิทธิ์การเข้าถึงแหล่งแร่ธาตุของยูเครน ในเร็ว ๆ นี้ พวกเขาเป็นคนกล้าหาญมาก แต่เราก็กำลังใช้ทรัพย์สมบัติของเราไปกับบางประเทศที่อยู่ห่างไกลมาก ทั้งนี้ ทรัมป์ ต้องการให้ยูเครนปล่อยให้บริษัทของสหรัฐ เข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาล เพื่อเป็นการชดเชยความช่วยเหลือมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ที่สหรัฐมอบให้ ภายใต้การนำของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อน

ขณะที่ช่วงก่อนหน้านี้ เซเลนสกี พยายามทำให้แน่ใจว่า จะยังคงได้รับความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจากสหรัฐ ด้วยการยื่นข้อเสนอเองว่า ให้ทรัมป์ร่วมมือเป็นพันธมิตรพิเศษ ในการพัฒนาแหล่งทรัพยากรของยูเครน ซึ่งรวมถึงแร่ธาตุหายาก และตอนนั้น ทรัมป์ก็เห็นว่า ยูเครน ควรส่งแร่ธาตุมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อมาชดเชย / แต่ เซเลนสกี ปฏิเสธ พร้อมอ้างว่า สหรัฐไม่ได้ให้การรับประกันความปลอดภัยที่ชัดเจน และต่อมาไม่นาน เมื่อสหรัฐ ต้องการทำข้อตกลงการเข้าถึงแร่ธาตุด้วยตัวเอง ด้วยการเป็นเจ้าของทรัพยากรแร่ธาตุของยูเครน 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้มาเป็นการชดเชยสหรัฐ แต่ เซเลนสกี ก็ปฏิเสธที่จะลงนามอีก พร้อมระบุว่า ไม่สามารถขายประเทศตัวเองได้

อย่างไรก็ดี ล่าสุด ท่ามกลางแรงกดดันที่ สหรัฐ ต้องการให้ยูเครนลงนามข้อตกลง เซเลนสกี ก็ได้ออกมากล่าวว่า ทีมงานของยูเครนและสหรัฐ กำลังดำเนินการร่างข้อตกลงระหว่างรัฐบาลของเรา  ข้อตกลงนี้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับความสัมพันธ์ของเรา และสิ่งสำคัญก็คือ ต้องดำเนินการในรายละเอียด เพื่อให้ข้อตกลงนี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งตนก็หวังว่าจะมีผลลัพธ์ที่ยุติธรรม

เมลินดา เฮริง นักวิเคราะห์ จาก สภาแอตแลนติก (Atlantic Council) ยืนยันว่า ยูเครนจำเป็นต้องพึ่งพา Starlink ในปฏิบัติการโดรนโจมตี ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์หลักของกองทัพยูเครนในตอนนี้

เธอกล่าวว่า “การสูญเสีย Starlink จะถือเป็นตัวเปลี่ยนเกม เวลานี้ รัสเซียและยูเครน มีสัดส่วนการใช้โดรนและเครื่องกระสุน อยู่ที่ 1:1 เท่ากัน และยูเครน มีโดรนอยู่หลากหลายชนิด ตั้งแต่ โดรนทางทะเล เรื่อยไปจนถึงโดรนสอดแนม และอากาศยานไร้คนขับระยะไกล

อีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ เขย่าเพนตากอนครั้งใหญ่ สั่งปลด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม พ้นตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางทหารสูงสุดของกองทัพสหรัฐ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปครั้งใหญ่ของผู้นำกองทัพระดับสูง

ทรัมป์ โพสต์บน ทรูธ โซเชียลม บอกว่า … ขอขอบคุณ พล.อ.อ.ซีคิว บราวน์ สำหรับการรับใช้ประเทศชาติมานานกว่า 40 ปี รวมทั้งในตำแหน่งประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมในปัจจุบัน โดยจะแต่งตั้ง พลโท แดน เรซิน เคน อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านกิจการทหารประจำสำนักข่าวกรองกลาง หรือ CIA ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน

 

ทรัมป์

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ทรัมป์ ยังระบุอีกว่า จะมีการปลด นายทหารระดับสูงอีก 5 นาย ในเพนตากอน เป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ด้าน เพนตากอน ระบุว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งบุคคลขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน พลเรือเอก ลิซา เอ็ม. แฟรนเกตตี ผู้บัญชาการยุทธนาวี ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรก ที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ที่ถูกสั่งปลดออกไปพร้อมกับรองประธานเสนาธิการกองทัพอากาศ ผู้พิพากษาทั่วไปแห่งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศด้วย…

สำหรับ พล.อ.อ.บราวน์ เป็นนายทหารผิวสีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐ ที่ดำรงตำแหน่งนี้ / ทำหน้าที่ให้คำแนะนำทั้งกับ ประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกลาโหม เกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ

ก่อนหน้านี้ “พีท เฮกเซธ” รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เคยกล่าวว่า ควรปลด นายพลบราวน์ เนื่องจาก เขา”ตื่นตัว”ในเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และโปรแกรมการมีส่วนร่วมในกองทัพ

ต่อมาในวันศุกร์ (21 ก.พ.) เฮกเซธ ได้ประกาศปลด นายทหารระดับสูงอีก 2 นาย ได้แก่ พล.ร.อ.หญิง ลิซ่า ฟรานเชตติ ผู้บัญชาการปฏิบัติการทางเรือ ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกที่เป็นผู้นำกองทัพเรือ และ พล.อ.จิม สไลฟ์ รองหัวหน้าคณะเสนาธิการกองทัพอากาศ

นายทหารระดับสูงทั้ง 3 ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง พวกเขาได้รับการแต่งตั้งจาก อดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน

เฮกเซธ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ เรากำลังจัดตั้งผู้นำคนใหม่ ที่จะมุ่งเน้นภารกิจหลักของกองทัพในการยับยั้ง ต่อสู้ และเอาชนะสงคราม”

พล.อ.อ.บราวน์ ได้ไปเยี่ยมทหารที่ชายแดนทางใต้ของสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 2 ชั่วโมงก่อนที่ทรัมป์จะประกาศปลดออกจากตำแหน่ง พล.อ.อ.บราวน์ ตกเป็นข่าวใหญ่ เมื่อปี 2020 ในกรณีที่เขาพูดถึงเรื่องเชื้อชาติ หลังจากการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ เขาโพสต์คลิป ถึงกองทัพอากาศ โดยบรรยายถึงแรงกดดันที่เขารู้สึกในฐานะชายผิวสีไม่กี่คนในหน่วยของเขา และถูกซักถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของเขา

 

ต่อมา ในปี 2022 ขณะดำรงตำแหน่ง เสนาธิการกองทัพอากาศ พล.อ.อ. บราวน์ ได้ร่วมลงนามในบันทึกความจำ ที่ตั้งเป้าหมายความหลากหลาย เพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้สมัครเป็นเจ้าหน้าที่ผิวสีในขณะที่ปรับอัตราผู้สมัครที่เป็นคนผิวขาวให้ต่ำลง ตามรายงานของ Air Force Times

นอกจากนี้แล้ว ยังจะมีการปลดเจ้าหน้าที่เพนตากอน ออกอีก 5,400 คน ส่วนหนึ่งของแผนการตัดลดเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางของทรัมป์ เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล โดยการลดจำนวนเจ้าหน้าที่เพนตากอนดังกล่าว ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า เป็นการลดลงเพียงน้อยจากจำนวนการเลิกจ้างในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ที่คาดว่าจะมีถึง 50,000 ตำแหน่ง แต่การลดลงนี้ อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต
"กรวีร์" ส่งหนังสือเชิญ "ธนดล" พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ชี้แจง กมธ.ปกครอง ปมที่ดิน สปก.เขาใหญ่
"ทรัมป์" บี้หนัก ฮุบ แหล่งแร่หายาก "ยูเครน" ขู่ปิดเน็ต Starlink
เอาจริง "ตร.ปอท." บุกจับ 2 แอดมินเพจ ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลาง เกือบ 2 พันชิ้น
“ภูมิธรรม" เดินหน้าปราบแก๊งคอลฯ ผนึกกำลังเพื่อนบ้าน ปิดช่องโหว่ อาชญากรข้ามชาติทุกช่องทาง
ย้อนเกล็ดแสบ "จีน" ส่งเรือรบติดขีปนาวุธ3ลำประชิดออสซี่ อ้างซ้อมรบใช้กระสุนจริง
ไม่รอดสายตา บุกทลายรังเขมร ดอดปลูกหมู่บ้านซุกปลายไร่ฝั่งไทย
"รัฐบาล" ย้ำดูแลปศุสัตว์ไทยต่อเนื่อง เร่งจ่าย "วัคซีนลัมปี สกิน" อีก 7.85 ล้านโดส
"รองปธ.วุฒิฯ" ไม่ทน สั่งฝ่ายกม.รวมหลักฐานผิดโดนกล่าวหา อั้งยี่ ซ่องโจร ยื่นถอดถอนรมต.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น