จากกรณี เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา นางสาวสมหวัง อยู่สาโก อายุ 71 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 16.00 น. น.ส.วรารัตน์ อยู่สาโก อายุ 22 ปี หลานสาว ได้ถูก น.ส.เกสรา จันทา อายุ 29 ปี ชักชวนให้เดินทางไปทำงานที่จังหวัดปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเกรงว่าหลานสาวจะถูกหลอกไปทำงาน และอาจเกิดอันตราย จึงได้มาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวเพราะเกรงว่าจะถูกหลอกลวงไป เพราะติดต่อหลานสาวไม่ได้
ต่อมา น.ส.วรารัตน์ ได้แอบวีดีโอคอล จากประเทศกัมพูชา ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนให้หาเงินจำนวน 700 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 30,000 บาทไทย เพื่อไถ่ตัวเองกลับบ้าน ระบุว่า “ถูกหลอกมาทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ ที่ฝั่งประเทศกัมพูชา แต่กลับถูกบังคับทำงานตั้งแต่ตอนเช้ายัน 5 ทุ่มทุกวัน ทำไม่ได้โดนกระบองไฟฟ้า หรือ เปลี่ยนสายงาน หนักสุดอาจจะถูกส่งขายต่อ”
ต่อมา พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิศิษฏ์ บัวสง่าวงศ์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เร่งสืบสวนหาข้อมูลพยานเพิ่มเติม ได้ข้อมูลว่า พบ ตำแหน่งพิกัดที่ส่งมาให้เป็นลักษณะอาคารแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ