เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส มีกำหนดเยือนวอชิงตันในวันนี้ เพื่อพบทรัมป์ โดยเขาตั้งใจว่า จะบอกผู้นำสหรัฐฯ… “ไม่ควรอ่อนข้อต่อหน้าประธานาธิบดีปูติน”

ส่วนทางด้าน อันเดรจ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์ ที่มีกำหนดการประชุมกับ ทรัมป์ ในเวลา 19.30 น. แต่กลับถูกเลื่อนออกไป โดยเริ่มในเวลา 20.30 น. เนื่องจาก ทรัมป์ ยังติดงานอื่นอยู่ อย่างไรก็ดี การสนทนาระหว่างทั้ง 2 ผู้นำ ใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 11 นาที เท่านั้น ทั้งที่จริงแล้ว ควรใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม ตามกำหนดการ

คลิปที่มีการเผยแพร่ ภาพประธานาธิบดีดูดา กำลังรอทรัมป์ นานถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง แต่กลับได้คุยกันเพียง 11 นาทีเท่านั้น / เรียกเสียงวิจารณ์จากชาวโซเชียลในยุโรปว่า พฤติกรรมของทรัมป์และทีมงาน กำลังดูหมิ่นยุโรป พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมยุโรปต้องเสียเวลามายืนรอเศษขนมปังจากอเมริกา

อย่างไรก็ดี ยุโรป กำลังเร่งหาทางรับมือ หลัง ทรัมป์และทีมงาน กังขาเรื่องการสนับสนุนยูเครน รวมถึง ความร่วมมือด้านความมั่นคงข้ามแอตแลนติก ที่ดำเนินมานานหลายทศวรรษ ระหว่าง สหรัฐ กับชาติพันธมิตรยุโรป

ขณะเดียวกัน ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา ประจำมหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า …..

รัฐประหารนั้น เหมาะสำหรับเล่นงานนักการเมืองที่ผิดจริยธรรมมาก ๆ
ตอนนี้ มีข่าวลือออกมาว่า รัฐบาลอเมริกา กำลังสั่งให้ กองทัพในยูเครน หาทางยึดอำนาจ ไล่ เซเลนสกี ให้หนีไปต่างประเทศ และหาทางจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปใหม่

เห็นบทบาทของทหารในการสร้างประชาธิปไตยหรือยังครับ? ถ้าข่าวเป็นจริง … กองทัพยูเครน กำลังตะเพิดเซเลนสกี กองทัพยูเครน จะจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว เพื่อจัดการเลือกตั้ง กองทัพยูเครน จะดำเนินการจัดการเลือกตั้ง เพื่อพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตย …. สิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นโดยการกำกับของรัฐบาลอเมริกาเองด้วยซ้ำ

ด้วยเหตุนี้ การทำรัฐประหารไล่รัฐบาลทักษิณที่โกงชาติโกงแผ่นดิน จัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ที่ผ่านมา จึงไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไร เพราะคุณทักษิณโกงชาติไปมาก กฎหมายเอาผิดไม่ได้ ประชาธิปไตยไปต่อไม่ได้แล้ว ทหาร ไม่ได้ทำรัฐประหารนักการเมืองที่เป็นนักประชาธิปไตย แต่ทำรัฐประหารนักการเมืองโกงต่างหาก

ดังนั้น ถ้าผู้นำรัฐบาลไทยทุจริต ฉ้อราษฏร์บังหลวงมาก อยู่เหนือกฎหมาย ไม่มีใครเอาผิดได้ ไม่ได้บริหารประเทศตามวิถีประชาธิปไตย แสวงหาแต่ผลประโยชน์ซึ่งมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่เคารพหลักนิติธรรมนิติรัฐ พ้นจากการเป็นนักประชาธิปไตยแล้ว

ทหารไทย ก็ควรยึดอำนาจเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว เตรียมจัดการเลือกตั้งใหม่ หานักการเมืองคนใหม่มาเป็นผู้นำในการบริหารประเทศได้ ตามแนวทางที่รัฐบาลอเมริกาทำอยู่เป็นประจำ

ส่วนทางด้าน เพจ Contents Wistfuller อ้างอ้าง บทวิเคราะห์ จุดจบ สงครามรัสเซียยูเครน ของ ผู้ที่ใช้ชื่อว่า ดอน ทิพย์นัท Dorne Tipnant โดยเนื้อหา ระบุว่า ในเชิงกลยุทธ์นั้น
1. ความต้องการลึกๆ ของ ปธน.ทรัมป์ คือ ต้องการแตกคอกับยุโรป เพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายการค้า ที่ไม่ต้องเอื้อประโยชน์อย่างยิ่ง (non-sympathy) กับอียูต่อไป

เพราะเท่าที่ผ่านมาสหรัฐ มีเสียประโยชน์ที่ควรได้จากอียูไปมาก จนหนี้ท่วมหัว

2. ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ปธน.เซเลนสกี กลายเป็นหมากธรรมชาติ หรือ ผู้เล่นที่ดี ที่จะสร้างและขยายรอยร้าว ระหว่างสหรัฐกับอียู ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงประสงค์ของ ปธน.ทรัมป์

3. เป้าหมายในอียูของสหรัฐ (ปธน.ทรัมป์) ในระยะนี้ คือ ฝรั่งเศส + เยอรมนี ซึ่งเป็นตัวเป้าในการแสดงนำถึงความแตกแยกของสองฝั่งแอตแลนติก ส่วน อังกฤษ นั้น ออกจากอียูไปแล้ว และกำลังแสวงหาหนทางรอดทางเศรษฐกิจและการค้าระยะยาว ซึ่งคงจะประนีประนอมกับ ปธน.ทรัมป์ ได้ในที่สุด

▪ในขณะที่อียูนั้น จุดประนีประนอม น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ตามหลังการเปลี่ยนแกนนำรัฐบาลเป็นฝ่ายขวา แทนที่ฝ่ายซ้ายในทุกวันนี้

▪สภาพความสัมพันธ์ที่กล่าวมานี้จะเรียกว่าเป็น “World Order in Transition” “ระเบียบโลกในช่วงเปลี่ยนผ่าน” ก็น่าจะได้
4. ส่วนเซเลนสกี้ นั้น เมื่อหมดประโยชน์แล้ว

▪#จุดจบ คือ : ขึ้นศาลอาชญากรรมสงคราม และถูกขังจนตาย หรือแขวนคอ เพราะมีคนตายเยอะมากในวิกฤตครั้งนี้
และปูติน หรือ ผู้นำชาติอียูอื่น ๆ ย่อมไม่ต้องการเหลือเชื้อ ร่องรอย และมลทินไว้ให้ใคร ๆ สาวเรื่องนี้กลับมาถึงตัวเองได้ในภายหลัง

อาจดูโหดร้าย แต่มันคือผลตอบแทนของคนเขลา