“ทัพเรือ”เจอหยาม! “เรือประมงเวียดนาม”รุกทะเล หนีไม่ทัน พุ่งชนสนั่น

จากปฏิบัติการ สามารถจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามได้จำนวน 1 ลำ พร้อมลูกเรือจำนวน 4 คน ส่วนที่เหลือ เร่งเครื่อง หันหัวเรือหนีออกไปนอกเขตเศษฐกิจจำเพาะ ในช่วงเช้ามืดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ / อย่างไรก็ตาม ระหว่างปฏิบัติการไล่ล่าเรือประมงเวียดนามที่หนีไม่ทัน ได้หันหัวเรือพุ่งเข้าชนเรือหลวงเทพา บริเวณด้านข้างเรือฝั่งขวา / ทำให้ เรือหลวงเทพา ได้รับความเสียหาย ….

จากนั้น เรือหลวงเทพา และเรือต.246 ได้ลากเรือประมงลำดังกล่าว พร้อมลูกเรือประมงจำนวน 4 คน ขึ้นเทียบท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จ.ตราด

โดย พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1  ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วย พลเรือตรี ไชยนันท์ ชูใหม่ รองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 และตัวแทนจากหน่วยงานผู้ร่วมปฏิบัติการ  ร่วมกันแถลงข่าว ระบุว่า การปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการทำหน้าที่ดูแลความมั่นคง รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่อย่างเต็มที่ ในการนี้ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ประสานการปฏิบัติ ตั้งแต่ด้านการข่าว และจัดกำลังทางเรือ และอากาศนาวี …. ลาดตระเวน คุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวัง การรุกล้ำน่านน้ำไทยของเรือประมงต่างชาติ ที่เข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย ตามนโยบายดังกล่าวจนประสบความสำเร็จในการจับกุมในครั้งนี้ ทั้งนี้ได้ร่วมกันตรวจสอบ สอบสวนเบื้องต้น และส่งต่อให้ฝ่ายกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจคลองใหญ่ ดำเนินการต่อไป …. พร้อมเตรียมทำหนังสือแจ้งไปยัง รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานรัฐบาลเวียดนาม ให้รับทราบถึงพฤติการณ์ดังกล่าว

ส่วนกรณี ที่เรือประมงเวียดนาม พุ่งเข้าชน เรือหลวงเทพานั้น  พลเรือโท อาภา เล่าว่า ระหว่างทำการจับกุมนั้น เรือประมงเวียดนามหลายลำ ต่างเร่งเครื่องยนต์หลบหนี แต่มีเรือประมงเวียดนามลำหนึ่งที่หนีไม่ทัน ได้หันหัวเรือ พุ่งเข้าชนเรือหลวงเทพา ด้านข้าง ทำให้ยุบไปส่วนหนึ่ง แต่ไม่มากนัก  แต่สุดท้ายถูกรวบตัวได้ 4 คน โดยก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ ได้ยิงปืนเอ็ม 16 ขู่ เพื่อให้หยุดการหลบหนี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ดำเนินการตามหลักสากล

ทั้งนี้ พลเรือโทอาภา กล่าวด้วยว่า กองทัพเรือ จะดำเนินการอย่างเข้มงวด ในการติดตามจับกุมเรือประมงเวียดนาม ที่ลักลอบเข้ามาทำประมงในเขตน่านน้ำไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ ทัพเรือภาค 2 หรือ อ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งครั้งนี้ได้เข้ามายังพื้นที่ ทัพเรือภาค 1 และยังเป็นครั้งแรก ในปี 2568 ที่มีการจับกุมได้ ในพื้นที่ทัพเรือภาค 1