“นายกฯอิ๊งค์” ตอบกระทู้สภาฯ ร่ายยาวผลงานปราบคอลเซ็นเตอร์ ก่อนกลับทันที

“นายกฯอิ๊งค์” ตอบกระทู้สภาฯ ร่ายยาวผลงานปราบคอลเซ็นเตอร์ ก่อนกลับทันที

วันนี้ ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่การประชุม นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตอบกระทู้ถามต่อที่ประชุมสภาฯด้วยตนเอง และถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้นายอัครเดช ตั้งคำถามว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดตาก สำรวจเขตแดนที่ดูแลโดยกองกำลัง BGF และเป็นแหล่งของอาชญากรรมหลายอย่าง ทั้งคอลเซนเตอร์ และขบวนการค้ามนุษย์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเองเพิ่งได้เยือนจีน และได้ยกวาระการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติหารือทวิภาคีระหว่างไทยและจีน ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรี จึงขอสอบถามว่า ปัญหาดังกล่าวสร้างความเสียหายให้ประชาชนเป็นวงกว้าง รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างไรบ้าง
โดยนางสาวแพทองธาร ตอบว่า ตั้งแต่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ เป็นปัญหาที่แพร่หลายในทุกสังคมตลอดจนทั่วโลก และเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก บางคนหมดเนื้อหมดตัว บางคนถึงขั้นจบชีวิต รวมถึงเกิดการทำร้ายคนอื่น เพื่อนำเงินมาแก้หนี้ จนนำไปสู่เรื่องปัญหายาเสพติด และความไม่สงบในหลายประเด็น เมื่อเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้สั่งงานหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อช่วยกันดูแลเรื่องนี้อย่างบูรณาการ รวมถึงการคุยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอความร่วมมือ

 

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการมาตรการต่างๆที่รัฐบาลนำแก้ปัญหา อาทิ จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ หรือ AOC 1441 ,เรื่องซิมม้า ได้เตรียมมาตรการกำหนดให้ ผู้ถือครองที่สามารถยืนยันตัวตนได้ คนละไม่เกิน 6 หมายเลข และระงับซิมที่ต้องสงสัยว่าใช้งานผิดปกติไป ,ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ตรวจสอบบัญชีสำหรับผู้ที่ใช้โมบายแบงก์กิ้ง ให้ยืนยันตัวตน หากไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ก็จะถูกปิดไป และอยู่ระหว่างรอร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว อีกทั้งรัฐบาลยังสั่งการให้กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง ประกาศซีลพื้นที่ตลอดแนวชายแดน จับกุมขบวนการลักลอบค้ามนุษย์ผ่านแดนไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตรวจค้นทำลายแหล่งส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้านแบบผิดกฎหมาย และสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศ ประสานงานกับประเทศอื่นๆ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างประเทศด้วย ยกตัวอย่าง กรณีจีน เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะเกิดความช่วยเหลือแบบไตรภาคี ระหว่างเมียนมา จีน และไทย

 

 

 

สำหรับผู้ต้องสงสัยที่จับกุมมาได้นั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เราได้คัดกรอง และส่งตัวเข้ากระบวนการทางกฎหมาย โดยกำหนดกลไกการคัดกรองอย่างเคร่งครัด รวมถึงเก็บข้อมูลแบบไบโอเมทริกซ์ เพื่อนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลติดตามระมัดระวังต่อไปในอนาคตย้ำว่า การแก้ไขปัญหาที่ส่งผลอย่างมาก คือ การทำลายฐานที่มั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างการตัดไฟ หยุดส่งน้ำมัน ในพื้นที่ชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา พร้อมเปิดเผยว่า ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้จะลงพื้นที่สระแก้ว เพื่อติดตามสิ่งที่ได้สั่งการไปก่อนหน้านี้ ซึ่งตนคิดว่าได้ผลเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้เกิดความเสียหายกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน ขณะนี้ลดลงเหลือ 50 ล้านบาทต่อวัน แต่ถือว่ายังมาก จึงมีความตั้งใจอย่างมากที่จะทำให้ตัวเลขลดลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีหากได้รับความช่วยเหลืออย่างบูรณาการแบบนี้ ตนเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า คอลเซ็นเตอร์จะต้องหมดไปจากประเทศไทยในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน

 

ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพลต่างๆนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนทราบดีถึงเรื่องนี้ และขอให้คำมั่นกับสภาฯ จะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขอให้ทุกคนมั่นใจ ไม่ว่าใคร ตำแหน่งสูงใหญ่อะไรแค่ไหนก็ตาม หากทำผิดในเรื่องดังกล่าว คือทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยเดือดร้อน ตนจะจัดการอย่างเด็ดขาด และมั่นใจว่าจะทำได้อย่างเต็มที่แน่นอ เพราะตนเป็นนายกฯ ของคนไทย ต้องดูแลคนไทยก่อน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด แน่นอนว่า ทั้งเรื่องคอลเซ็นเตอร์ และยาเสพติด รัฐบาลเราไม่จบไม่เลิกแน่นอน

 

 

ทั้งนี้ ภายหลังจากนางสาวแพทองธารชี้แจงจบ มีเสียงปรบมือจากสภาฯ ที่แสดงความชื่นชมด้วย จากนั้น ได้เข้าสู่วาระกระทู้ถามทั่วไป ซึ่งเป็นคำถาม นายภูริวรรธภ์ ใจสำราญ สส.พรรคประชาชน เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหา ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย แต่นายกรัฐมนตรีได้ออกจากห้องประชุมสภาฯ ไปก่อน โดยนายพิเชษฐ์ แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ตอบกระทู้ ทำให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้ลุกขึ้นท้วงว่า น่าเสียดายที่นายกรัฐมนตรีมาถึงที่ประชุมสภาฯ แล้วก็ได้ลุกหนี ไม่ยอมตอบกระทู้ถามทั่วไป ทำให้สส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง เช่น นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม, ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ พร้อมขอให้ถอนคำพูดว่า “ลุกหนี”

 

 

ต่อมา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคประชาชน ได้สอบถามว่า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการมาตอบกระทู้อีกเมื่อไหร่ เพราะฝ่ายค้านน้อยใจ อยากให้ตอบกระทู้เหมือนนายอัครเดช ที่ถามแล้วตรงคำตอบ จะได้จัดการตั้งถามให้ตรงเวลา ทำให้ประธานในที่ประชุม ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีมีภารกิจมาก กระทู้ถามสดมีความสำคัญ นายกรัฐมนตรีจึงพยายามมาตอบ ตอบได้กระทู้สด 1 เรื่อง ก็ยังดี และต่อไปนายกรัฐมนตรีก็จะมาตอบอีก แต่กระทู้ถามทั่วไปมีหนังสือไปล่วงหน้าแล้ว และนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายผู้เกี่ยวข้องโดยตรง คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้เตรียมข้อมูลมาเต็มที่ พร้อมที่จะตอบแล้ว มองว่าเป็นไปตามเงื่อนไขแล้ว จึงขออนุญาตเข้าสู่วาระต่อไป

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ประเสริฐ" เชื่อ "นายกฯ" พร้อมตอบศึกซักฟอก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ตลาดยานยนต์ 'เวียดนาม' ยอดขายพุ่งโตไล่ตามไทย
'นาจาร้องแร็ป'ภาษาอาเซียนก่อนบุกไทย 13 มี.ค.
"กัน จอมพลัง" เปิดตัวพยาน คดีนายจ้างโหดทารุณสาวใช้ พร้อมแฉรับรู้มาตลอด มีหลักฐานเพียบ
"กรมเจ้าท่า" เคลื่อนไหวแล้ว โซเชียลวิจารณ์หนัก "เรือหรู" ทิ้งขยะลงแม่น้ำเจ้าพระยา
"ตร.ไทย-ตร.สิงคโปร์" บุกจับแฮกเกอร์มือพระกาฬ โจมตีฐานข้อมูลทั่วโลกขายตลาดมืด
“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวด เข้า-ออกจุดผ่านชายแดน
"วันนอร์" สั่งบรรจุสอบจริยธรรม "สส.ปูอัด" แล้ว แจ้งที่ประชุมสภาฯ ถอนวาระส่งตัวดำเนินคดี
“สมศักดิ์” ส่งทีม MCATT เยียวยาจิตใจ เหตุรถทัวร์คว่ำปราจีน
ฮามาสประณามคลิป AI เปลี่ยนกาซาเป็น 'รีสอร์ตหรู'

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น