นายิมกล่าวหาทรัมป์ว่าเพิกเฉยต่อสิทธิและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวปาเลสไตน์ และเมินเฉยต่อสาเหตุที่แท้จริงของความทุกข์ยากในฉนวนกาซา ซึ่งมีต้นตอมาจากการยึดครองของอิสราเอล และว่าการฟื้นฟูฉนวนกาซาจะไม่มีความหมายหากไม่ยุติสิ่งที่เขาเรียกว่า “คุกเปิด” ที่อิสราเอลสร้างขึ้น
นายิมเน้นย้ำว่าเป้าหมายของฮามาสไม่ใช่การปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของคุก แต่เป็นการยุติการยึดครองของอิสราเอล ก่อนนำไปสู่การจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระ และว่าฮามาสพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายที่ต้องการบรรเทาวิกฤตมนุษยธรรมในกาซาและสนับสนุนการฟื้นฟู ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดอธิปไตยและสิทธิของชาติปาเลสไตน์
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร (25 ก.พ.) ทรัมป์ได้เผยแพร่วิดีโอที่สร้างขึ้นด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งแสดงให้เห็นฉนวนกาซาที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสุดหรู พร้อมรูปปั้นทองคำของตัวเขาเอง โดยวิดีโอดังกล่าวมีเพลงภาษาอังกฤษที่มีเนื้อร้องว่า “ไม่มีอุโมงค์ ไม่ต้องหวั่นกลัว กาซาใหม่ ทรัมป์มาแล้ว”