AFP และรอยเตอร์สรายงานว่าหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงข่าวในวันนี้ (ศุกร์ที่ 28 กพ.) กล่าวหาสหรัฐว่าใช้ประเด็นเฟนทานิลเป็นข้ออ้างในการแบล็คเมลและกดดันทางภาษีกับจีน พร้อมเตือนว่าวิธีกดดัน, บีบบังคับและขู่เข็ญใช้ไม่ได้ผลกับจีน และว่าจีนยอมรับในหลักการพื้นฐานว่าด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกันเท่านั้น พร้อมกันนี้ก็เตือนว่ากำแพงภาษีรอบใหม่จะส่งผลต่อความร่วมมือในการควบคุมเฟนทานิลระหว่างสหรัฐกับจีน
หลิน เจี้ยนยังชี้ด้วยว่ามาตรการควบคุมและสกัดเฟนทานิลไม่ให้เข้าสหรัฐของจีนถือว่าคืบหน้าอย่างมาก เรียกได้ว่าจีนเป็นประเทศแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นทางการในการควบคุมเฟนทานิล
การออกมาตอบโต้ของจีนมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภายในห้องรูปไข่เมื่อวานนี้ (พฤหัสที่ 27 กพ.) ว่าสหรัฐจะเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% ในวันที่ 4 มีนาคมนี้ หลังจากที่เลื่อนมา 1 เดือน นอกจากนี้ก็จะเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% เป็น 20% มีผลบังคับใช้พร้อมกัน โดยอ้างเหตุผลว่าเฟนทานิลยังคงไหลเข้าสหรัฐไม่หยุด ความพยายามของทั้งสามประเทศยังไม่ได้ผล
ทั้งนี้การประกาศขึ้นกำแพงภาษีจีนของสหรัฐมีขึ้นแบบกระชั้นชิด ไม่ถึง 1 สัปดาห์จนจีนประกาศมาตรการตอบโต้ไม่ทัน และวันที่มีผลบังคับใช้ก็มีขึ้นเพียง 1 วันก่อนที่จีนจะเริ่มเปิดการประชุมรัฐสภาประจำปีในวันพุธที่ 5 มีนาคม ทั้งนี้ข้อมูลของสำนักงานควบคุมโรคสหรัฐเผยว่ามีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากเฟนทานิลมากถึง 7 หมื่น 2 พัน 776 คนในปี 2566
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวานนี้ (พฤหัสที่ 27 กพ.) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวหาจีนว่าจงใจส่งเฟนทานิลเข้าสู่พรมแดนสหรัฐ เพื่อเอาคืนที่จีนเคยแพ้สงครามฝิ่นให้กับชาติตะวันตกในยุคศตวรรษที่ 19 ถึง 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งแพ้ให้อังกฤษ อีกครั้งแพ้ให้ฝรั่งเศส ทำให้จีนต้องยกดินแดนบางส่วนให้เป็นอาณานิคมของสองประเทศนี้และถูกบังคับซื้อฝิ่นจำนวนมาก ทำให้คนจีนในยุคนั้นติดฝิ่นกันงอมแงมจนประเทศถดถอยและอ่อนแอ