ข่าวที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ เซเลนสกีมีวัตถุประสงค์ของการมาที่สหรัฐ ที่นอกเหนือจากเรื่องการลงนามดังกล่าว นั่นคือ การโน้มน้าวให้ทรัมป์ ไม่เข้าข้างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แต่เซเลนสกีก็กลับมีการท้าทายทรัมป์อย่างเปิดเผย เกี่ยวกับแนวทางที่อ่อนโยนกว่าของทรัมป์ ที่มีต่อปูติน และแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงในแนวทางของทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ของสหรัฐ ที่มาร่วมพบปะกันด้วย
เซเลนสกีได้เน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารในสหรัฐ บั่นทอนความพยายามของยูเครน ที่จะรักษาการสนับสนุนจากชาติตะวันตก สำหรับความพยายามในการทำสงครามของตน ด้านแวนซ์ก็บอกกลับว่า เป็นความจำเป็นที่ต้องมีการทูต เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งนี้ของรัสเซียและยูเครน ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งทางเซเลนสกีก็ได้โต้กลับมาว่า ไม่สามารถไว้วางใจปูตินในการเจรจาใดๆ ได้เลย และเซเลนสกียังเรียกร้องทรัมป์ว่า อย่าประนีประนอมกับฆาตกร ซึ่งเซเลนสกีได้หมายถึงปูติน
สำหรับการโต้เถียงกันนั้น เป็นการจุดชนวนมาจากการที่ทรัมป์ได้ยืนยันว่า ตนอยู่ตรงกลาง และตนก็อยากแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า เซเลนสกีมีความเกลียดชังปูตินอย่างมาก มันยากมากที่จะทำข้อตกลงกับความเกลียดชังแบบนั้น ความโกรธอาจเป็นอุปสรรคต่อข้อตกลง ส่วนความสัมพันธ์อันดีระหว่างตนกับผู้นำรัสเซีย จะทำให้มีแนวโน้มที่จะประสบผลสำเร็จมากกว่า
ในส่วนของแวนซ์ก็มีการเสริมว่า เป็นเวลา 4 ปี ที่สหรัฐ มีประธานาธิบดีที่ยืนแถลงข่าวอย่างแข็งกร้าวเกี่ยวกับปูติน จากนั้นปูตินก็บุกยูเครนและทำลายประเทศไปจำนวนมาก เส้นทางสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง จึงอาจมาจากการทูต เราลองวิธีของโจ ไบเดน แต่อะไรทำให้ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่ดี อเมริกาใช้การทูตหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำอยู่
จากนั้น เซเลนสกีก็ได้ยกประเด็นการที่รัสเซียยึดครองไครเมียในปี 2014 และระบุว่า ได้มีการลงนามข้อตกลงหยุดยิง ที่มีประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเยอรมนีร่วมอยู่ด้วย แต่หลังจากนั้น รัสเซียก็เป็นฝ่ายละเมิดเอง จึงสงสัยว่า แวนซ์หมายถึงการทูตแบบไหน ซึ่งแวนซ์ได้ตอบกลับว่า เป็นการทูตประเภทที่จะยุติการทำลายล้างประเทศของคุณ แต่เซเลนสกีก็ได้แสดงความสงสัยว่า หมายถึงอะไร (***อนึ่ง ชนวนเหตุแห่งสงครามครั้งนี้ คือการที่ยูเครนจะเข้าร่วมกับนาโต แต่เซเลนสกีไม่ได้พูดถึง ซึ่งรัสเซียคัดค้านเรื่องนี้มาตลอด เพราะเหมือนเป็นการให้ยุโรปมาตั้งกองทัพอยู่ข้างประเทศ***)
เมื่อสถานการณ์เริ่มลุกลาม แวนซ์จึงได้กล่าวต่อว่า ด้วยความเคารพ ตนคิดว่าเป็นการไม่ให้เกียรติที่คุณเข้ามาในห้องโอวัลออฟฟิศ และพยายามฟ้องร้องเรื่องนี้ต่อหน้าสื่ออเมริกัน ตอนนี้คุณพยายามเกณฑ์ทหารไปแนวหน้า แต่ก็ติดปัญหาเรื่องกำลังคน ดังนั้น คุณควรขอบคุณทรัมป์ที่พยายามยุติความขัดแย้งนี้ ด้านเซเลนสกีได้ถามกลับว่า คุณเคยไปยูเครนสักครั้งไหม ซึ่งแวนซ์ตอบกลับว่า เคยไปและได้เห็นถึงปัญหาต่างๆแล้ว และเซเลนสกีก็ยอมรับว่า เรามีปัญหา
แวนซ์ถามกลับว่า คุณคิดว่าการมาที่สหรัฐอเมริกา และโจมตีรัฐบาลที่พยายามป้องกันการทำลายล้างประเทศของคุณนั้น ถือเป็นการเคารพกันหรือไม่ ซึ่งเซเลนสกีก็ได้บอกกลับว่า ตนมีคำถามมากมาย แต่ขอเริ่มที่จุดนี้ก่อนว่า คุณไม่มีความเข้าใจประเด็นนี้ เนื่องจากสหรัฐได้รับการปกป้องโดยมหาสมุทร และไม่ได้เผชิญกับภัยคุกคามจากรัสเซียที่กำลังใกล้เข้ามา แต่เดี๋ยวจะรู้สึกเองได้ในอนาคต
จากนั้น ทรัมป์จึงได้โต้กลับว่า คุณไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะกำหนดว่าเราจะรู้สึกอย่างไร อย่าบอกเราว่าเราจะรู้สึกอย่างไร เรากำลังพยายามแก้ไขปัญหา คุณไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดี แต่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณไม่มีไพ่ในตอนนี้ คุณกำลังเล่นไพ่ คุณกำลังพนันกับชีวิตของผู้คนนับล้าน คุณกำลังพนันกับสงครามโลกครั้งที่ 3 สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้นเป็นการไม่เคารพประเทศนี้อย่างมาก ประเทศนี้สนับสนุนคุณมากกว่าที่หลายคนบอกว่าควรทำ ด้านแวนซ์ได้ถามเสริมด้วยว่า คุณเคยขอบคุณกันบ้างหรือไม่ ซึ่งเซเลนสกีสวนกลับทันทีว่า หลายครั้ง
ทรัมป์กล่าวต่อว่า ประเทศของคุณอยู่ในปัญหาใหญ่ แต่คุณมีโอกาสสูงมากที่จะตกลงได้ เพราะพวกเรา ด้านเซเลนสกีโต้กลับว่า ท่านประธานาธิบดี เราอยู่ในประเทศของเรา อยู่ให้เข้มแข็ง ตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม เราอยู่เพียงลำพัง และเราขอบคุณ… ทรัมป์สวนกลับทันทีว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียว เรามอบเงิน 3.5 แสนล้านดอลลาร์ให้กับคุณ ผ่านทางประธานาธิบดีโง่ๆ เรามอบอุปกรณ์ทางทหารให้กับคุณ และลูกน้องของคุณก็กล้าหาญ แต่พวกเขาใช้อุปกรณ์ทางทหารของเรา ถ้าคุณไม่มีอุปกรณ์ทางทหารของเรา สงครามนี้คงจะจบลงภายใน 2 สัปดาห์ และทางเซเลนสกีก็ยอมรับว่า ภายใน 2 สัปดาห์แน่นอน
ทรัมป์กล่าวเสริมต่อว่า คุณถูกฝังอยู่ที่นั่น ผู้คนกำลังล้มตาย คุณกำลังขาดแคลนทหาร แต่คุณบอกเราว่า ไม่ต้องการหยุดยิง ซึ่งจริงๆถ้าคุณสามารถหยุดยิงได้ตอนนี้ คุณต้องทำ เพื่อที่พวกคุณจะไม่ถูกฆ่า ด้านเซเลนสกีตอบกลับว่า แน่นอน เราต้องการหยุดสงคราม และถามคุณไปแล้วว่า แล้วหลักประกันอยู่ตรงไหน
ในช่วงเวลานั้น ได้มีนักข่าวถามแทรกว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้ารัสเซียละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งทรัมป์ได้แสดงความมั่นใจว่า ตนไม่รู้ จริงๆปูตินจะทำข้อตกลงกับประธานาธิบดีคนไหนก็ได้ แต่ปูตินเคารพตน และปูตินก็เจอเรื่องเลวร้าย ถูกกล่าวหามามากมาย ซึ่งเขาต้องทนอย่างมากกับเรื่องเหล่านั้น
ทรัมป์หันกลับไปหาเซเลนสกีแล้วกล่าวต่อว่า ปัญหาคือ ตนได้มอบอำนาจให้คุณเป็นคนแข็งแกร่ง และตนไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนแข็งแกร่งได้ หากไม่มีสหรัฐ คุณไม่มีไพ่ในมือ แต่เมื่อเราเซ็นสัญญานั้นแล้ว คุณจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นมาก แต่คุณไม่ได้แสดงท่าทีขอบคุณเลย ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีเลย และเอาล่ะ ตนคิดว่าเราคงได้เห็นกันมามากพอแล้วว่า คุณคิดอย่างไร? นี่คือรายการที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
จากนั้น เซเลนสกีก็ได้ออกจากทำเนียบขาว โดยไม่มีการลงนามข้อตกลงระหว่างยูเครนและสหรัฐ เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน ขณะที่ทรัมป์ ก็โพสต์ลงทรูท โซเชียล แพลตฟอร์มของตัวเองว่า ตนได้ตัดสินใจแล้วว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีไม่พร้อมสำหรับสันติภาพ หากอเมริกาเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาไม่เคารพสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี เขาก็ยังสามารถกลับมาได้ เมื่อเขาพร้อมสำหรับสันติภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
