“ศาลอาญา” ออกหมายจับคนไทย สมัครใจทำแก๊งคอลฯปอยเปต เพิ่มอีก 112 ราย

"ศาลอาญา" ออกหมายจับคนไทย สมัครใจทำแก๊งคอลฯปอยเปต เพิ่มอีก 112 ราย

จากกรณีการรับตัวคนไทย 119 คน ที่ทางการกัมพูชาบุกเข้าไปจับกุม และช่วยเหลือออกมาจากอาคารที่ใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2568 ในจำนวนนี้มีผู้ที่ถูกออกหมายจับจากโรงพักต่างๆ แล้ว 7 คน จำนวน 15 หมาย ซึ่งทั้ง 119 คน ถูกนำตัวไปสอบสวนตามขั้นตอน และกระบวนการของทางการกัมพูชา จนแล้วเสร็จ จึงนำตัวส่งให้ทางการไทย ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด วันนี้ (3 มี.ค.68) มีรายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับแก๊งคอลเซนเตอร์ในคดีดังกล่าว เพิ่มอีก 112 ราย ขณะที่ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการรับตัวคนไทยที่ถูกส่งกลับมาจากประเทศกัมพูชา ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ เข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM ว่า

 

 

ในขณะนี้ยังอยู่ในกลไก NRM ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ที่ให้ตั้งคณะสืบสวนสอบสวนในกรณีที่มีคดีอาชญากรรมออนไลน์ อยู่ทั้งหมด 46 เคสไอดี ที่มีผู้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เดินทางกลับมาด้วย ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องจำนวน 10 ราย ตำรวจไซเบอร์จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจสระแก้ว และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)

 

จากการซักถามเบื้องต้น และได้นำข้อมูลประกอบกับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค2 พบว่า มีผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดในข้อหา “การมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” และข้อหาอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และให้ พันตำรวจเอก รชตโชค ลีวาณิชคุณ รองผู้บังคับการตำรวจไซเบอร์ 5 ขออนุมัติหมายจับคนไทยที่เกี่ยวข้อง กว่า 100 ราย และบอสชาวจีนอีก 2 ราย ซึ่งจะถูกดำเนินคดีหลักในข้อหา “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” โดยตนเองกำลังจะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าในกรณีนี้ อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการแถลงในรายละเอียดอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สรรเพชญ" ทำสำเร็จ ผลักดันครม.อนุมัติงบฯ 1,622 ล้าน ช่วยลดผลกระทบพี่น้อง ชาวประมง นำเรือออกนอกระบบ
“เบิร์ด” วิ่งหานักข่าว! อัดอั้น 3 ปี พูดแล้วทำไมเพิ่งออกมา ลั่นรู้จักคนบนเรือแค่ “กระติก”
"พิพัฒน์" เดินหน้าตรวจสอบ เอาผิดขบวนการขายใบตรวจโรค "ต่างด้าว" สั่งกรมการจัดหางาน ดำเนินคดีถึงที่สุด
ชายแดนระอุต่อเนื่อง! กกล.KNLA ใช้โดรนทิ้งบึ้มถล่มฐานปูลูตู่ เมียนมายิงตอบโต้ สู้ป้องกันที่มั่น
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ฮิวแมนนอยด์จีนโชว์สเต็ปพลิ้วพร้อมรับมือมนุษย์จู่โจม
“สุรพงษ์” มอบสัญญาเช่าที่ดิน ร.ฟ.ท. อีก 241 ครัวเรือน เร่งทำเพิ่ม 26 ชุมชนทั่วประเทศ ภายในมี.ค.นี้
เหยื่อโผล่แจ้งความ "เก๋งแดง" อีกราย พร้อมมีคลิปเด็ด นาทีขับจี้-ปาดหน้า หวิดเกิดอุบัติเหตุ
DSI ส่งมติออกหมายจับ ‘หม่องชิต ตู’ พร้อมพวกถึงมือ‘อัยการสูงสุด’แล้ว
"ฟิล์ม” ขึ้นศาลคดีหลอกลงทุนเหรียญคริปโต ย้ำไม่เคยกังวลเพราะไม่ได้ทำผิด
โผล่แล้ว! “เบิร์ด” ย่องพบ DSI “พี่ยักษ์” ปิดห้องสอบ-เค้นความลับตัวต่อตัว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น