“มินอ่องหล่าย”ซบ”ปูติน”สร้างรง.นิวเคลียร์ ไม่สนมดปลวกแข่งอิทธิพลชิงดินแดน

ขณะที่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย นอกจากพยายามแก้ปัญหาความขัดแย้งกับชนกลุ่มน้อย อีกด้านหนึ่ง ก็หันไปเจรจากับประเทศมหาอำนาจ นอกเหนือจากจีนแล้ว … รัสเซีย เป็นอีกหนึ่งชาติ เพื่อหวังดึงเม็ดเงินเข้ามาลงทุนเศรษฐกิจในประเทศ ที่นอกจากสนับสนุนด้านทหาร

ล่าสุด มิน อ่อง หล่าย ที่เดินทางไปต่างประเทศไม่บ่อยนัก ออกจากพม่าในรอบหลายปีเยือนรัสเซีย โดย ประธานาธิบดี ปูติน ได้ให้การต้อนรับการมาเยือน มิน อ่อง หล่าย พร้อมคณะรัฐบาลทหารพม่า  โดยในการพบกันนั้น ปูติน ประกาศอย่างเป็นทางการ ถึงข้อตกลงในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่ในพม่า ซึ่งข้อตกลงที่เพิ่งลงนามเพื่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์กำลังการผลิตต่ำ 110 เมกะวัตต์ จะช่วยปูทางไปสู่การจัดหาพลังงานราคาถูก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้กับเศรษฐกิจของพม่าได้ แต่อาจเพิ่มเป็น 330 เมกะวัตต์ในอนาคต ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการลงนามร่วมกันในเอ็มโอยู เมื่อปี 2566 เกี่ยวกับการยกระดับความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ ที่ตอนนั้นมีการระบุเกี่ยวกับ การเตรียมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ด้วย

ปูติน กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นกับเมียนมาร์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา กำลังพัฒนาไปอย่างก้าวหน้า เมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการค้าเติบโตขึ้นไป 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ดี เรามีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่

ด้าน พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ก็ได้กล่าวว่า เราเข้าใจสถานการณ์ในรัสเซีย เราจึงสนับสนุนปฏิบัติการพิเศษที่ตอบสนองต่อการกระทำที่ไม่มั่นคงในรัสเซียอย่างเต็มที่ และเชื่อว่ารัสเซียจะชนะภายใต้การปกครองที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ ตนก็อยากแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อรัสเซีย สำหรับการสนับสนุนในเวทีระหว่างประเทศ ดังนั้น เราจึงเชื่อคำพูดที่ว่า เมื่อทุกอย่างเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศ เราก็จะชนะเสมอ

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ขอบคุณ ประธานาธิบดีปูติน สำหรับการต้อนรับในครั้งนี้ เรียกปูตินว่า “พระราชา” และกล่าวว่า เมียนมา พร้อมกระชับความร่วมมือกับรัสเซีย นอกจากนี้ ยังได้เชิญ ปูติน เดินทางเยือนเมียนมาในอนาคต เวลาใดก็ตามที่ปูตินสะดวก

การเดินทางของ มิน อ่อง หล่าย เป็นการเยือนรัสเซีย ครั้งที่ 4 นับตั้งแต่การก่อรัฐประหาร / และการเดินทางเยือนครั้งนี้ มีขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 77 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเมียนมาและรัสเซีย ด้วย

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี มิคาอิล มิชุสติน ของรัสเซีย ได้เปิดเผยกับ สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียว่า แม้จะมีการคว่ำบาตรที่ไม่ชอบธรรมต่อรัสเซียและเมียนมา แต่ความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจของเรา ก็ยังคงพัฒนาอย่างประสบความสำเร็จ และการค้าระหว่างกันก็เติบโตขึ้นด้วย ซึ่งเราก็มีโอกาสดี ๆ ที่จะเพิ่มความร่วมมือกันในภาคพลังงาน เช่น พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ รวมถึง โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง และการเกษตรกรรมด้วย

สำหรับ รัสเซีย นั้น ถือเป็นซัพพลายเออร์อาวุธรายสำคัญให้กับเมียนมาร์มา เพื่อปราบปรามการต่อต้านอย่างรุนแรง ต่อการปกครองของคณะรัฐประหาร และปูติน ก็เป็นหนึ่งในผู้นำต่างชาติเพียงไม่กี่คน ที่สนับสนุนการเข้ายึดครองกองทัพของเมียนมา