อัยการยื่นฟ้องแล้ว คดียิงสจ.โต้ง “โกทร-ลูกน้อง” โดน 6 ข้อหาหนัก
ข่าวที่น่าสนใจ
6 มี.ค. 2568 นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวน จากพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 คดีระหว่าง นางณภาภัช หรือจอย อัญชสาณิชมน ผู้กล่าวหาที่ 1 กับพวก นายธนศรัณย์กรณ์ เตชะธนัตถ์โชติ ผู้ต้องหาที่ 1, นายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์ ผู้ต้องหาที่ 2, นายธนภัทร ส่งแสง ผู้ต้องหาที่ 3, นายอภิสิทธิ์ สดชื่น ผู้ต้องหาที่ 4, นายสิทธิชัย ศรีภักดี ผู้ต้องหาที่ 5, นายภัทรนนท์ บุญชู ผู้ต้องหาที่ 6, นายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันทำให้เสียหาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, เป็นช่องโจร และนางสาวมินช์ญารัศน์ พชระมารกุล ผู้ต้องหาที่ 8 ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยพนักงานอัยการได้รับสำนวนไว้พิจารณาเป็นสำนวน ส. 1 เลขรับที่ 88/2568
เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่า ด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 บัดนี้ สำนักงานคดีอาญา ได้ตั้งองค์คณะขึ้นพิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่งดังนี้
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 – 7 ในความผิดฐานเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืน ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และไม่มีเหตุสมควร
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 – 6 ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ในฐานความผิดมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครองครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 7 ในฐานความผิดเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 8 ในฐานความผิดเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
นอกจากนั้น พนักงานอัยการได้มีคำขอให้เพิ่มโทษผู้ต้องหาที่ 4 และมีคำขอให้ริบของกลางที่เจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้ และสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 – 7 ในข้อหาร่วมกันทำให้เกิดความเสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารใดในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
คดีดังกล่าวพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 ต่อศาลอาญาแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (6 มีนาคม 2568) สำหรับกรณีสั่งไม่ฟ้องได้เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1 ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น