เพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่ “รัสเซีย”ล้อมทุกด้าน “ทัพยูเครน”ไร้แรงต้าน2วีคต้องพ้น”เคิร์สก์”

ทั้งนี้ ทหารยูเครนหลายพันนาย ที่เข้าไปบุกยึดดินแดนภูมิภาคคูสก์ (Kursk) ของรัสเซีย เมื่อ 6 สิงหาคม ปีที่แล้ว กำลังตกที่นั่งลำบาก ถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมเอาไว้เกือบจะทุกด้านแล้ว กลายเป็นความเพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่ของเคียฟ ที่หวังจะยึดดินแดนส่วนนี้เอาไว้เป็นไพ่ต่อรองกับรัสเซีย ในการเจรจาสันติภาพ

ข้อมูลจากแผนที่โอเพนซอร์ส ชี้ว่า สถานการณ์ของยูเครนในแคว้นคูสก์กำลังย่ำแย่หนัก ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา หลัง กองทัพรัสเซีย เปิดปฏิบัติการโจมตีโต้กลับ จนสามารถยึดดินแดนคืน และหั่นกองกำลังยูเครน ออกเป็น 2 ฝั่ง / นอกจากนี้ ยังตัดกองกำลังหลัก ออกจากเส้นทางลำเลียงได้สำเร็จด้วย

แผนที่ โอเพนซอร์ส จาก เพจ Deep State ซึ่งเป็นบล็อกด้านการทหารของยูเครน เผยให้เห็นว่า วานนี้ (8 มี.ค.) กองกำลังยูเครนในรัสเซีย ประมาณ 2 ใน 3 ถูกทหารรัสเซีย โอบล้อมไว้เกือบทั้งหมด และยังมีส่วนที่เชื่อมต่อกับทหารส่วนที่เหลือ ตรงจุดใกล้ ๆ ชายแดนรัสเซีย ผ่านระเบียงทางบก ยาว 1 กิโลเมตร กว้าง 500 เมตร ซึ่ง กองทัพรัสเซีย ก็กำลังพยายามที่จะตัดขาดเส้นทางดังกล่าวด้วย …. ปัจจุบัน กองทัพยูเครน มีเส้นทางเข้าสู่ Kursk ที่ใช้งานได้เพียงไม่กี่เส้นทาง ถนนส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยรัสเซีย รัสเซียทดแทนทหารราบ ด้วยโดรนจำนวนมหาศาล

ความเพลี่ยงพล้ำนี้ เกิดขึ้นหลังจาก สหรัฐ ระงับความช่วยเหลือด้านอาวุธ และข่าวกรองแก่เคียฟ ซึ่งอาจส่งผลให้ ทหารยูเครน ในภูมิภาคเคิร์สก์ ต้องจำยอมล่าถอยอย่างยากลำบาก และน่าอับอาย หรือแม้กระทั่ง … อาจถูกจับกุมและถูกสังหาร ….

รัฐบาลยูเครน เผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากรัฐบาล ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ให้ต้องยอมเข้าสู่กระบวนการเจรจาหยุดยิงกับรัสเซีย ในขณะที่ ทหารมอสโก ยังคงรุกคืบยึดดินแดนแนวหน้าของยูเครนอย่างต่อเนื่อง

พาซี พารอยเนน นักวิเคราะห์ด้านการทหาร จาก Black Bird Group ในฟินแลนด์ กล่าวกับ รอยเตอร์ ว่า “สถานการณ์ สำหรับยูเครนในเคิร์สก์ ถือว่าย่ำแย่มาก  ตอนนี้แค่รอเวลาว่า เมื่อไหร่พวกเขาจะถูกปิดล้อม หรือถูกบีบให้ล่าถอยออกไป และการล่าถอย ย่อมหมายถึง การเดินเข้าไปสู่อันตรายใหญ่หลวง เพราะจะต้องถูกฝูงโดรนและปืนใหญ่รัสเซียเล่นงาน  และหากกองกำลังยูเครน ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่พวกเขา จะกลายเป็นฝ่ายถูกปิดล้อม …..

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียและกองทัพยูเครน ยังไม่ออกมาแถลงข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งโดยปกติแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย จะรายงานทันที หากเกิดความเปลี่ยนแปลงในสนามรบ ….

ประธานาธิบดี เซเลนสกี ระบุว่า การบุกภูมิภาคเคิร์สก์ ยังมีเป้าหมาย เพื่อลดแรงกดดันให้กับทหาร ที่ปกป้องดินแดนยูเครนในฝั่งตะวันออก โดยทำให้ รัสเซีย ต้องกระจายทรัพยากรบางส่วนไปปกป้อง และอาจจะเป็นเครื่องมือต่อรองที่ดีสำหรับยูเครน หากต้องมีการเจรจาสันติภาพในอนาคต ….