BBC และ AFP รายงานว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธนำวิถี 2 ลูกเข้าใส่อพาร์ตเม้นต์ 8 แห่งและห้างสรรพสินค้า 1 แห่งที่เมืองโดโบรพิลย่า ในแคว้นโดเน็ตสก์ ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และบาดเจ็บอีกราว 40 คน รวมทั้งเด็ก 6 คน ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ผุ้นำยูเครนได้โพสต์ผ่านเทเลแกรมเผยว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ รัสเซียได้ยิงถล่มอีกครั้งโดยจงใจโจมตีหน่วยกู้ภัยโดยเฉพาะ รัสเซียยังได้โจมตีเมืองอื่นๆ ของแคว้นโดเน็ตสก์ คร่าชีวิตประชาชนไป 9 คนบาดเจ็บ 13 คนเมื่อคืนวันศุกร์และเช้าวันเสาร์
นอกจากนี้กองทัพรัสเซียยังได้โดรนโจมตีบริษัทแห่งหนึ่งที่เมืองโบโอดูคีฟ ของแคว้นคาร์คีฟ ทำให้มีผุ้เสียชีวิตอีก 3 คนบาดเจ็บ 7 คนเมื่อรุ่งเช้าวานนี้ (เสาร์ที่ 8 มีค.) และส่งโดรนโจมตีอีกชุดถล่มใส่โครงสร้างด้านพลังงานที่แคว้นโอเดสซ่า เมื่อวันศุกร์ ถือเป็นการโจมตีระบบพลังงานครั้งที่ 7 ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่แคว้นโอเดสซ่า
อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่ายูเครนได้ตอบโต้ด้วยการส่งโดรนเข้าไปโจมตีรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ถูกรัสเซียสกัดเอาไว้ได้ 31 ลำ
การโจมตียูเครนครั้งล่าสุดมีขึ้นหลังจากที่สหรัฐประกาศตัดความช่วยเหลือด้านการทหารและหยุดแชร์ข้อมูลด้านข่าวกรองกับยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่เกิดการปะทะคารมเดือดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และเซเลนสกี้ที่ทำเนียบขาว
ในวันอังคารหน้าที่ 11 มีนาคม ทรัมป์จะส่งสตีฟ วิตคอฟ เป็นผู้แทนไปพบกับคณะผู้แทนยูเครนที่ซาอุดิอาระเบียเพื่อหารือเรื่องเจรจาหยุดยิงกับรัสเซีย