“ม็อบฝรั่งเศส” ลุกฮือประท้วง จวก “มาครง” ลั่นจะไม่ตายเพื่อ “ยูเครน”

"มาครง"เหวอ "ม็อบชาวฝรั่งเศส" หลายพันคน ฮือประท้วงใจกลางกรุงปารีส ชูป้ายจวก "เราจะไม่ตายเพื่อ ยูเครน!" สับนโยบายปกป้องยุโรป ส่งทหารไปรบ ไม่สนสันติภาพ ต่างจาก "ทรัมป์-ปูติน"

“ม็อบฝรั่งเศส” ลุกฮือประท้วง จวก “มาครง” ลั่นจะไม่ตายเพื่อ “ยูเครน” – Top News รายงาน

หลังจากที่เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เสนอให้ขยายโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส เพื่อปกป้องประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป และเรียกร้องให้ สมาชิกนาโตในยุโรป รับผิดชอบต่อการป้องกันประเทศของตนเองมากขึ้น  รวมถึง มาครง ยังอ้างถึงความไม่แน่นอน เกี่ยวกับความมุ่งมั่นของสหรัฐ ที่มีต่อยูเครน และระบุว่า การช่วยเหลือยูเครนอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งสำคัญ

ล่าสุด ฟลอเรียน ฟิลิปป็อต หัวหน้าพรรค เดอะ แพทริออต ได้เป็นแกนนำจัดการประท้วงใจกลางกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศ ร่วมกับชาวฝรั่งเศสหลายพันคน เพื่อต่อต้านแนวทางทางทหารในนโยบายต่างประเทศ รวมถึง ประณามแนวทางของมาครง โดย ฟิลิปพ็อต ระบุว่า ประธานาธิบดี ไม่ได้ต้องการบรรลุสันติภาพ ในความขัดแย้งของยูเครนเลย  ทั้งนี้ ฟิลิปป็อต ซึ่งเคยเป็นสมาชิกของแนวร่วมแห่งชาติ เคยวิจารณ์รัฐบาลของมาครง และนโยบายของสหภาพยุโรปอย่างเปิดเผย พรรคของเขา คัดค้านการแทรกแซงทางทหารที่ไม่จำเป็น และสนับสนุนนโยบายต่างประเทศของฝรั่งเศส ที่เป็นอิสระมากขึ้น ขณะที่ในส่วนของผู้ร่วมประท้วงนั้น ต่างตะโกนและถือป้ายประโยคต่อต้านต่าง ๆ เช่น เราไม่ต้องการตายเพื่อยูเครน หรือ มาครง เราไม่ต้องการสงครามของคุณ

ทั้งนี้ ผู้ประท้วงหลายคนในการชุมนุม …. วิจารณ์มาครงที่ให้ความสำคัญกับประเด็นทางการทหาร มากกว่าประเด็นภายในประเทศว่า  เมื่อคุณประกาศสงคราม คุณก็กำลังลบล้างความล้มเหลวอื่น ๆ ทั้งหมด  ขณะที่ ผู้ประท้วงอีกรายมีความเห็นว่า มาครงพยายามสร้างความขัดแย้ง ในขณะที่ผู้นำ อย่าง ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กำลังพูดถึงสันติภาพ

อย่างไรก็ดี การผลักดันของมาครง เกี่ยวกับการให้เพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ต้องเผชิญกับอุปสรรค  เนื่องจาก ฝรั่งเศส กำลังเผชิญกับปัญหาการขาดดุลงบประมาณ และแรงกดดันให้มีการควบคุมการใช้จ่าย การอนุมัติงบประมาณปี 2025 ต้องล่าช้า เนื่องจาก รัฐสภา มีความเห็นแตกต่างกัน โดยในเดือนมกราคม รัฐมนตรีกระทรวงงบประมาณ ได้ประกาศแผนการลดการใช้จ่ายภาครัฐลง 32,000 ล้านยูโร พร้อมทั้งเพิ่มภาษี 21,000 ล้านยูโร

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน นักวิจารณ์ ก็ชี้ว่า มาตรการเหล่านี้ จะเป็นภาระแก่ครอบครัวชนชั้นกลาง , เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และผู้เกษียณอายุ ที่ต้องดิ้นรนกับต้นทุนที่สูงขึ้น  ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฟรองซัวส์ บายรู ก็ปฏิเสธการเรียกร้องให้มีการหารือกับสาธารณชน เกี่ยวกับนโยบายด้านการป้องกันประเทศที่สำคัญ โดยยืนยันว่า การตัดสินใจดังกล่าว เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล และเมื่อถูกถามถึงสิทธิ์ของชาวฝรั่งเศสว่า พวกเขาควรได้รับโอกาสออกเสียงเรื่องการเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร และการเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจสงครามหรือไม่ บายรู ก็ตอบว่า ความรับผิดชอบของรัฐบาล คือการบอกว่า ไม่ เราไม่สามารถปล่อยให้ประเทศถูกปลดอาวุธได้

 

 

ส่วนทางด้าน ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี (9มี.ค.) ส่งสัญญาณว่า เขาอยากพูดคุยกับฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับการแบ่งปันอาวุธนิวเคลียร์ แต่เน้นย้ำว่า ไม่ปรารถนาให้อยู่ในฐานะแผนสำรอง กรณี สหรัฐ ยุติให้การคุ้มครองทางนิวเคลียร์แก่ยุโรป

แมร์ซ กล่าวว่า “การแชร์อาวุธนิวเคลียร์ เป็นประเด็นที่เราต้องการพูดคุยด้วย เราจำเป็นต้องรวมกันเข้มแข็งขึ้นในด้านการป้องปรามทางนิวเคลียร์  เราควรเจรจากับทั้ง 2 ประเทศ (ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร) ไม่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มการสนับสนุน โล่ป้องกันนิวเคลียร์ของอเมริกา  ซึ่งแน่นอนว่า เราอยากเห็นมันคงอยู่ตามเดิม

อย่างไรก็ตาม แเมร์ซ ได้ส่งสัญญาณถึงความเต็มใจ ที่จะสำรวจความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ที่มากขึ้นกับพันธมิตรนาโต และว่า เราจะต้องเข้มแข็งขึ้น ร่วมกันในการคุ้มครองด้านนิวเคลียร์ในยุโรปด้วย

เมื่อเดือนที่แล้ว เขาเสนอแนะว่า สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส สามารถขยายการคุ้มครองนิวเคลียร์ของตนไปยังเยอรมนีได้ โดยอ้างถึงความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและนาโต เกี่ยวกับยูเครน

เนื่องจาก สงครามโลก ครั้งที่ 2  เยอรมนี วางพันธสัญญาตนเองในสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่าง ๆ ต่อการป้องกันตนเองโดยปราศจากนิวเคลียร์  แต่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงของนาโต เกี่ยวกับการแบ่งปันอาวุธ

ทั้งนี้ ในที่ประชุมซัมมิต กรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันพฤหัสบดี (6มี.ค.) กลุ่มผู้นำอียู สนับสนุนแผนใช้จ่ายเพิ่มเติมในด้านกลาโหม ท่ามกลางความกังวลว่า รัสเซีย ที่มีความฮึกเหิมจากสงครามในยูเครน อาจโจมตีประเทศใดประเทศหนึ่งในอียูเป็นลำดับถัดไป และยุโรป ไม่อาจพึ่งพิงสหรัฐ ให้เข้ามาช่วยเหลือ ได้อีกต่อไป

ท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นของ แมร์ซ ในด้านความมั่นคงและผู้อพยพ สะท้อนถึงฉากทัศน์ทางการเมืองที่กำลังเปลี่ยนไป หลังจาก พรรคขวาจัด Alternative for Germany หรือ AfD ผงาดขึ้นมาในศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุด  กลายมาเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดเป็นลำดับ 2 ของประเทศ

แมร์ซ ชี้แจงว่า แผนของเยอรมนี ในการยกระดับความเข้มข้นของกฎหมายคนเข้าเมือง ไม่ได้สวนทางกับกฎระเบียบคนเข้าเมืองของยุโรปโดยทั่วไป ที่บังคับใช้โดยอียู  เราต้องการเห็นความเป็นหนึ่งเดียวกันของยุโรป แต่ เยอรมี มีสิทธิโดยธรรมชาติในการปกป้องความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของตนเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"โจรใต้" สุดเหิม ลอบกระหน่ำยิง "อส.กรงปินัง" ดับสลด ก่อนฉกปืนพกสั้น 9 มม.หลบหนีลอยนวล
"สุนทร" นำทีมอบจ.สมุทรปราการ สานนโยบายหาเสียง เดินหน้าสร้างสนามกีฬา เสริมคุณภาพชีวิตปชช.
บริษัท “ว้าแดง” ไม่กลัวทหารไทย ส่อรวมหัว “อดีตรบพิเศษ” ขนยาข้ามแดน
"รัฐบาล" ดันท่องเที่ยวกระตุ้น GDP "ภูเก็ต" แชมป์เมืองทำเงินท่องเที่ยว ปี 67 กวาด 4.9 แสนล้าน
เครือซีพีปั้น "เถ้าแก่รุ่นใหม่" ปูทางคนรุ่นใหม่สู่การเป็น “ผู้บริหารระดับสูง” รองรับการเติบโตสู่ 100 ปีที่สอง เปิดตัว 5 เถ้าแก่หนุ่มสาวที่ติดปีกก่อนอายุ 30
"พิพัฒน์" ยันเวที สว.ยังไม่ทิ้งแผนปรับขึ้นค่าจ้าง 400 ทั่วปท.ย้ำต้องครอบคลุม 142 สาขาอาชีพ
หนุ่มอเมริกันควงปืนโผล่หน้าทำเนียบขาวถูกตำรวจยิงไม่นับ
"ไอซ์ รักชนก" บุกสปส. โวยใช้เงิน 7 พันล้าน ลงทุนซื้อตึกแค่ 4 พันล้าน
ผบ.เรือนจำคลองเปรม สั่งเด้ง ‘สิทธิพร’ ผู้คุมคุกแดน 7 เข้ากรุ เซ่นคดี ‘อดีตผกก.โจ้’
พ.ต.อ.ทวี สั่งกรมราชทัณฑ์เปิดกล้อง CCTV ตัวเต็ม คดี ‘อดีตผกก.โจ้’ พร้อมให้ความร่วมมือตร.เข้าสอบสวน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น