AFP, BBC และรอยเตอร์สรายงานว่ายูเครนได้ส่งกองทัพโดรนอย่างน้อย 91 ลำเข้าโจมตีหลายพื้นที่กลางกรุงมอสโก ของรัสเซียตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (อังคารที่ 11 มีค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บ 6 คน รวมทั้งเด็ก 1 คน โดยโดรนบางส่วนได้ตกใส่อพาร์ตเม้นต์สูงระฟ้าที่เขตราเมนสโกเย่ ซึ่งอยู่ห่างจากทำเนียบเครมลินไปเพียง 50 กิโลเมตร ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก กระจกหน้าต่างแตกกระจาย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสั่งอพยพผู้อยู่อาศัยออกจากอาคาร
ขณะที่สำนักงานการบินรัสเซียได้สั่งระงับเที่ยวบินที่บินเข้าออกสนามบินทั้ง 4 แห่งของมอสโก และอีก 2 แห่งทางตะวันออกของมอสโกเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีรายงานโดรน 2 ลำตกใส่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่เขตวลาดิเมียร์ ทางตะวันออกของมอสโก ทำให้ชาวบ้านกว่า 800 คนต้องอพยพหนึตาย
นายเซอร์เกย์ โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกแถลงว่าการโจมตีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉากเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขณะที่ยูเครนประกาศว่าเป็นการโจมตีมอสโกครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามรัสเซียสามารถสกัดโดรนได้หลายลำ ขณะที่ประชาชนในมอสโกยังคงใช้ชีวิตตามปกติ
ทั้งนี้ยูเครนได้ส่งโดรนโจมตีรัสเซียทั้งหมด 337 ลำ โดยโจมตีมอสโก 91 ลำ, และแคว้นคูสก์ 126 ลำ ด้านคณะกรรมาธิการสอบสวนรัสเซียเรียกการโจมตีดังกล่าวว่าเป็นการก่อการร้ายและสั่งให้เปิดการสอบสวนทันที
การโจมตีมอสโกครั้งล่าสุดมีขึ้นในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ของยูเครนพบหารือกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่เมืองเจดดาห์ประเทศซาอุดิอาระเบียเพื่อหาทางเจรจาหยุดยิง ซึ่งยูเครนเตรียมเสนอแผนหยุดยิงบางส่วนให้สหรัฐพิจารณา