“นายกฯ” ชมบีโอไอ ส่งเสริมลงทุนไทย พุ่ง 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ย้ำสร้างจุดแข็งท่องเที่ยวไทย – Top News รายงาน
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเปิดงานเผยแพร่ยุทธศาสตร์และนโยบายส่งเสริมการลงทุน ในหัวข้อ “Ignite Thailand : Invest in Endless Opportunities โอกาสการลงทุนไร้ขีดจำกัดในประเทศไทย”
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่ทราบกันดีทุกวันนี้การลงทุนของทั่วโลกเศรษฐกิจของทั่วโลกเป็นสิ่งที่ท้าทายการที่จะเกิดการลงทุนใหม่ๆได้เป็นเรื่องที่น่าท้าทายเช่นกัน อย่างคนที่อยู่ในวงการทั้งภาครัฐและเอกชนธุรกิจต่างๆ ก็คงทราบดีว่าการจะหาช่องทางให้เกิดการลงทุนใหม่ๆไม่ได้เป็นไปได้ง่ายเหมือนหลายสิบปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของเราค่อนข้างที่จะค่อยๆเติบโตขึ้นอยากให้เติบโตก้าวกระโดดกว่านี้ แต่เราก็ยังทำหลายๆอย่างลงทุนหลายๆอย่างช้าไป ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราพยายามจะดึงนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาให้ได้มากขึ้น เพื่อที่จะสร้างโอกาสให้กับประเทศ ในฐานะของผู้นำรัฐบาลต้องพยายามที่จะเปลี่ยนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ให้เป็นโอกาสของประเทศให้ได้ ซึ่งมีหลายภาคส่วนที่ร่วมมือกัน อย่างที่พูดไปในหลายเวทีการใช้ภาครัฐอย่างเดียวหรือภาคเอกชนอย่างเดียวหรือภาคประชาชนอย่างเดียวไม่สามารถเกิดการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ได้อย่างเป็นก้าวใหญ่จึงต้องอาศัยความร่วมมืออย่างบูรณาการซึ่งรัฐบาลแสดงความมั่นคงชัดเจนมาตลอด ว่าต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนทั่วโลกทราบว่าประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่น่าลงทุนและเป็นประเทศในโอกาสทั้งคนทรัพยากรและศักยภาพต้องแสดงความพร้อมให้ชัดเจน รัฐบาลต้องสร้างโอกาสในการลงทุนอย่างไม่รู้จบ เนื่องจากต้องเปิดทางอย่างให้ทุกคนในโลกเห็นว่าการลงทุนของเรานั้น นอกจากจะมีความเปลี่ยนแปลงและต้องเกิดความมั่นคง
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำในเรื่องการพัฒนา การลงทุนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งขณะนี้มีอยู่หลายโครงการที่รัฐพยายามทำ ทั้งการผลักดันด้านการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่ เพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อ ภาคใต้เข้าสู่ส่วนกลาง อำนวยความสะดวกทั้งการค้าและการเดินทาง อนุมัติรถไฟสายสีม่วงและสีม่วงใต้เพื่อเชื่อมโยงกรุงเทพฯชั้นนอกและชั้นในเข้าด้วยกัน นอกจากนี้รถไฟความเร็วสูงภาคอีสานช่วงที่ 2 อำนวยความสะดวกในการขนส่งระดับภูมิภาค ซึ่งการสร้างรถไฟเหล่านี้หากมีการก่อสร้างและเศรษฐศาสตร์จะสามารถเชื่อมต่อการขนส่ง สินค้าการท่องเที่ยวให้กับประเทศเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันจะมีการพัฒนาท่าอากาศยานจะมีการลงทุนที่สำคัญโดยเริ่มโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังแห่งที่ 3 มีมูลค่าในการลงทุนเบื้องต้น 1.5 แสนล้านบาท และเริ่มพัฒนาโครงการเพื่อขยายการใช้งานในพื้นที่ท่าอากาศยานทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและภูมิภาค ซึ่งจะส่งผลให้การขนส่งของประเทศไทยนั้นเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น