วงในเผย “แม่ทัพภาค2” ส่งซิกพร้อมรบจริง สั่งกำลังพล “ห้ามลา-ห้ามหยุด”

“อดีตทหารพราน” ต่อสายตรงหาพี่น้องทหารภาค 2 ยืนยัน “แม่ทัพ” สั่งให้ฝึกทบทวน เพื่อพร้อมรบจริง กำชับกำลังพล “ห้ามลา-ห้ามหยุด” ในช่วงนี้เด็ดขาด

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กของ กองทัพภาคที่ 2 ได้โพสต์ภาพของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมระบุข้อความว่า “กองทัพภาคที่ 2 พร้อมแล้ว ที่จะปกป้อง ธำรง และรักษาไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย ด้วยชีวิต” พร้อมข้อความจาก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ถึงบทบาทของทหาร ระบุว่า สารนี้ จากพี่ถึงน้อง “จดใส่คำ จำใส่ใจ”

“เป็นทหาร มากกว่าทหาร” ด้วยจิตวิญญาณแห่งเกียรติยศ ยึดมั่นอุดมการณ์ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน บ้านเมืองจะเดินต่อไปได้ เพราะเราเสียสละ เข้มแข็ง ด้วยความสามัคคีปรองดอง

ห้วงเวลานี้ การข่าวก็เป็นเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่ง ข้อมูล ข้อเท็จจริงถูกต้อง มีการกลั่นกรองอย่างชัดเจน ก่อนสื่อสาร คือสิ่งที่สังคมต้องการรับรู้ โดยเน้นประโยชน์ของสังคม ประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง ลงชื่อ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2

โพสต์ดังกล่าวมาพร้อมแฮชแท็ก #กองทัพบกRoyalThaiArmy #กองทัพภาคที่2 #พลโทบุญสินพาดกลาง #สามัคคีปรองดอง และ #ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ทหารกัมพูชาแสดงพฤติกรรมที่ถูกมองว่า เป็นการยั่วยุ เช่น การร้องเพลงชาติบนปราสาทตาเมือนธม การตัดลวดหนามของฝ่ายไทย และการห้ามทหารไทย เก็บกู้ทุ่นระเบิดในเขตแดนฝั่งไทย โดยอ้างตามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งสร้างความกังวลในหมู่เจ้าหน้าที่ และประชาชนชาวไทยในพื้นที่

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาในช่วงต้นเดือนมีนาคม มีรายงานเพิ่มเติมว่า ทหารกัมพูชา ดำเนินการตัดรั้วลวดหนามบริเวณชายแดน ซึ่งโฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม 68 เนื่องจากรั้วลวดหนามชำรุด และไหลไปฝั่งกัมพูชา จึงต้องมีการรื้อ เพื่อซ่อมแซมร่วมกัน และยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งระหว่างสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากบางแหล่งว่า ทหารกัมพูชาเผาศาลาตรีมุข ซึ่งเป็นศาลาที่สร้างขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทหาร 3 ประเทศ คือ ไทย กัมพูชา และ สปป.ลาวอีกด้วย

ขณะที่ นนท์ นาวินณ์ อดีตทหารพรานจู่โจม ได้วิเคราะห์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของแม่ทัพภาคที่ 2 ครั้งนี้ ว่า ในฐานะที่ผมเคยเป็นอดีตอาสาสมัครทหารพรานจู่โจม จากค่ายปักธงชัย เคยสู้รบหลายสมรภูมิ ผมมองว่าการขยับของแม่ทัพครั้งนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะทหารจะมีการฝึกซ้อมรบ เป็นประจำปีทุกปี ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็จะเดินทางมาตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจอยู่แล้ว ไม่น่าจะใช่เป็นการไปสั่งให้รบ ตามที่โซเชียลมีเดียกำลังตีข่าวกัน

อย่างไรก็ตาม หากมันจะเกิดการสู้รบจริงๆ จะต้องมีคำสั่งทางยุทธการให้ออกรบ มีการตระเตรียมเสบียงข้าวสารอาหารแห้ง จากนั้นจะมีการเคลื่อนกำลังพลออกไปที่กองบัญชาการส่วนกำลังรบ จากนั้นแม่ทัพ รองแม่ทัพ ก็จะไปตรวจสภาพพร้อมรบ คำว่าตรวจสภาพพร้อมรบ ก็คือทหารอยู่ในสภาพที่พร้อมรบแล้ว เมื่อถึงวันเวลาที่จะปฏิบัติการ ก็จะเรียกรวมกำลังพล ร่วมร้องเพลงชาติ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นจะมีการให้โอวาท จากนั้นผู้บังคับบัญชาจะตรวจความพร้อมของกำลังพล และอาวุธครั้งสุดท้าย

ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าทางกองทัพภาคที่ 2 ยังไม่กล้าที่จะบวกกับทหารกัมพูชา เพราะการจะประกาศรบ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะขณะนี้รัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาเค้าเป็นพันธมิตรกันอยู่ ดังนั้นเค้าไม่ปล่อยให้เกิดการสู้รบแน่นอน ส่วนการที่กลาโหมสั่งห้ามไม่ให้พี่น้องคนไทย ขึ้นไปทำกิจกรรมด้านบนปราสาทตาเมือนธม มันเป็นแค่กลเกมเท่านั้น เพราะถ้าเราขึ้นไปทำกิจกรรม อาจเกิดการกระทบกระทั่งกับทหารกัมพูชาได้ ซึ่งทางกลาโหมคงลืมไปว่า การสั่งห้ามแบบนี้ มันเป็นผลลบมากกว่าผลดี เพราะแน่นอนว่าทัวร์พากันไปลงทหาร โดยเฉพาะทหารชั้นผู้น้อย ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ที่อยู่ในพื้นที่ต้องรับชะตากรรมไปเต็มๆ ก็อยากจะขอให้กำลังใจน้องๆกำลังพลในส่วนนี้

แต่ก็ต้องบอกว่า ในอดีตการประกาศศึกก็ไม่ใช่เรื่องยาก เค้าจะมีการเปิดแผนยุทธการ จากนั้นนายทหารน้อยใหญ่ ก็จะหารือวางแผนปฏิบัติการ จากนั้นสั่งให้ทหารเตรียมเสบียง เตรียมอาวุธ พอเช้าวันต่อมา ก็จะมีการทำหนังสือ ที่ระบุว่า หากการไปทำหน้าที่ปกป้องประเทศ ท่านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ สิทธิที่จะได้จากทางราชการ ท่านจะมอบให้ใคร ทุกคนก็ต้องกรอกให้เรียบร้อยก่อนเดินทางออกสู่สนามรบ

จึงขอสรุปว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องรบ แต่มันก็ห้ามกันไม่ได้ ที่กระแสตอนนี้มันถูกปั่นในโลกโซเชียล จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งข้อมูลที่ผมได้รับตอนนี้ ทางแม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีการสั่งการให้ทหาร ในช่วงนี้ ห้ามขาด ห้ามลา ให้เตรียมพร้อม ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ ยังไม่ถึงขั้นเสียงปืนแตก หรือสั่งออกรบ

แหล่งข่าวบอกด้วยว่า มีการสั่งให้ฝึกทบทวน เพื่อพร้อมรบจริง แต่หลังจากที่ฝึกเสร็จแล้ว ก็กลับเข้าที่ตั้งตามปกติ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นักท่องเที่ยวช็อคสวนสัตว์จีนแปลงเสือดำเป็นหมู
"นายกฯ" ลั่นเอาจริงแก้ปัญหายาเสพติด เซ็นตั้ง "ผบ.ทสส." เป็นประธานคกก.ปชด.
"นายกฯ" ไม่ห่วง แต่งตั้งรมต.ยึดเข้มโมเดล "แพทองธาร1" ปมตีตกคำร้องคุุณสมบัติไม่กระทบ
‘รมช.อิทธิ’ ติวเข้มผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ภาคตะวันออก เข้มงวดตรวจสอบคุณภาพผลผลิต ปลอดการปนเปื้อน สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคทั้งใน และต่างประเทศ
"คาเมเนอี" เมินสาร "ทรัมป์" เตือนก้าวพลาดเมื่อไร ไม่ได้ผุดได้เกิด
เอาจริง! รมว.ศธ. ออกประกาศคุมเข้มบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา สถานที่ราชการในสังกัด หากพบใครเกี่ยวข้องโดนฟันวินัย
ทรัมป์ขู่เพิ่มกำแพงภาษีหลังอียู-แคนาดาตอบโต้
เปิดผลตรวจดีเอ็นเอ จากผ้าขนหนูที่ "ผกก.โจ้" ใช้จบชีวิตในห้องขังเรือนจำ
"อธิบดีกรมราชทัณฑ์" ลั่นพบหลักฐานใหม่ไฟล์เสียง "ผกก.โจ้" คุยกับแฟนก่อนตาย เร่งตรวจสอบ
DNA จิตอาสาซีพีเอฟ ดูแลและเคียงข้างชุมชน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น